“เพราะคนเราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราถูกแบ่งชนชั้นด้วยคุณสมบัติที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง และการแบ่งแยกก็สร้างความปวดร้าวขึ้น คนไร้ค่าก็คือคนไร้ค่า เพราะคนเราแบกชะตากรรมที่ถูกลิขิตไว้ตั้งแต่เกิด ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้”
หนึ่งในคำพูดแสนเศร้าแต่เคล้าความจริงจากปาก ฮิวงะ เนจิ หนึ่งในตัวละครที่เต็มไปด้วยอดีตอันแสนปวดร้าวจากมังงะเรื่อง นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ ที่เป็นเสมือนภาคตรงข้ามของพระเอกในเรื่องอย่าง อุซึมากิ นารูโตะ นินจาจอมห่วย ที่เชื่อว่า ความพยายามสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้เสมอ
หากมองจากรูปลักษณ์ภายนอก ฮิวงะ เนจิ คือเด็กชายที่แสนเงียบขรึม ถูกกล่าวขานว่าเป็น ‘นินจาอัฉริยะ’ ผู้สืบทอด ‘เนตรสีขาว’ ขีดจำกัดทางสายเลือดที่เก่าแก่และแข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านโคโนฮะ ทว่า ภายใต้ท่าทีเย็นชา ดูถูกดูแคลนคนไร้ค่าที่ความสามารถต่ำกว่า เขากดซ่อนความแค้นแสนขมขื่นที่ว่า ฮิวงะ ฮิซาชิ พ่อของเขา ‘ถูกฆ่า’ เพียงเพราะชะตากรรมผู้สืบทอด ‘ตระกูลสาขา’ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง
ถึงแม้จะมีชื่อฮิวงะนำหน้า แต่เนจิเป็นได้เพียงผู้สืบทอดตระกูลสาขาที่ได้รับมอบของขวัญวันเกิดครบรอบ 4 ปี ด้วยการประทับอักขระต้องสาป ‘ปักษาในกรง’ ที่ทำให้นินจาตัวน้อยถูกลิขิตชะตากรรมว่า เขาเกิดมามีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือ มีชีวิตเพื่อปกป้องสายเลือดของ ‘ตระกูลหลัก’ เอาไว้
ในครั้งแรกที่พบหน้า ฮิวงะ ฮินาตะ ลูกพี่ลูกน้องที่มีศักดิ์เป็นทายาทตระกูลหลักที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เนจิยังกล่าวทักทายชื่นชมถึงความน่ารักของน้องสาว โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ชีวิตของเด็กหนุ่มไร้เดียงสาจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
ทั้งที่ทั้งเนจิและฮินาตะไม่ได้มีใครทำความผิด ทั้งคู่เพียงแค่เกิดมาต่างสถานะโดยไม่มีทางเลือก เนจิเองไม่เคยอยากเกิดมาในฐานะเงาดำที่แสนต่ำต้อย ส่วนฮินาตะก็ไม่อยากแบกรับตำแหน่งทายาทตระกูลหลัก เพราะรู้ว่าตัวเธอไม่มีความสามารถมากพอ หากแต่ ‘ประเพณี’ เคร่งครัดและคร่ำครึ ทำให้ชีวิตของทั้งคู่กลายเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ
กระทั่งโชคชะตาเล่นตลก สองพี่น้องต้องมาเผชิญหน้ากันในรอบคัดเลือกงานประลองคัดเลือกนินจาระดับจูนิน ที่เนจิใช้ความสามารถเนตรสีขาวที่มองทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง อ่านความคิด ความเคลื่อนไหว และท่าทีไร้ความมั่นใจของฮินาตะ และยืนยันความเชื่อของตัวเองที่ว่า ‘คนอ่อนแอถูกกำหนดให้อ่อนแอ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้’
แต่ฮินาตะไม่คิดเช่นนั้น เธอพยายามฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กสาวอ่อนแอ ขี้กลัว ตัวสั่น ไม่กล้าแม้แต่สบตากับใคร ให้มีความกล้าเผชิญหน้ากับความกลัว อย่างน้อยที่สุด ก็กล้ายกฝ่ามือร่ายรำเพลงมวยต่อกรกับพี่ชายที่เธอกลัวที่สุด ถึงแม้ผลลัพธ์สุดท้าย เธอจะถูกเนจิอัดจนกระอักเลือดปางตาย
ความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าของฮินาตะ ทำให้แววตาแข็งกร้าวของเนจิเริ่มเกิดความสงสัยว่า เพราะเหตุใดคนอ่อนแอถึงต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองขนาดนี้ จนกระทั่งเข้าสู่การต่อสู้รอบถัดไปที่อัจฉริยะตัวจริงอย่างเนจิ ต้องมาเจอกับอัจฉริยะด้านความมั่วนิ่ม ผู้เชี่ยวชาญด้านความพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างนารูโตะ
แน่นอนว่าความสามารถของนารูโตะนั้นเทียบเนจิไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บ ยิ่งนารูโตะพยายามมากเท่าไร เนจิก็จะโชว์ประกายของอัจฉริยะออกมาให้เห็น โดยเฉพาะมวยแปดทิศเคลื่อนสวรรค์ วิชาลับที่สืบทอดเฉพาะตระกูลหลัก แต่เนจิคิดค้นขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง จนไปถึงท่ามวยอ่อน 8 ทิศ 64 ฝ่ามือ ที่จู่โจมเส้นพลังจักระ จนนารูโตะไม่สามารถรีดเร้นพลังได้
แต่สุดท้ายพลังแห่งอัจฉริยะก็ยังต้องแพ้ให้กับพลัง ‘พระเอก’ ของนารูโตะ ที่อยู่ดีๆ ก็ดึงจักระของจิ้งจอกเก้าหางมาใช้ ปิดเกมด้วยการใช้วิชาแยกร่างโผล่ขึ้นมาโจมตีจากใต้ดิน ถึงแม้จะดูมั่วนิ่มอยู่บ้าง แต่การที่คนที่ถูกกำหนดให้เป็นคนนอกคอกไร้ค่าอย่างนารูโตะ พยายามฝึกฝนวิชาแยกร่างที่ตัวเองไม่ถนัดที่สุด จนสามารถเอาชนะอัจฉริยะลงได้ ก็ทำให้เนจิเริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ที่ว่า คนเราอาจจะเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตได้จริงๆ
รวมทั้งความจริงที่ไม่เคยล่วงรู้มาก่อน ว่าแท้จริงแล้วพ่อของเขาเป็นคนเลือกเสียสละชีวิตตัวเอง เพื่อยุติปัญหาสงครามที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเขาไม่ได้ทำไปเพราะหน้าที่ของคนตระกูลสาขาที่ถูกกำหนดให้ปกป้องตระกูลหลัก
แต่เป็นในฐานะนินจาคนหนึ่งที่ยอมเลือกความตายด้วยตัวเอง เพื่อปกป้องลูกชาย พี่น้อง ครอบครัว และหมู่บ้านที่เขารักเอาไว้ และนั่นอาจเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ครั้งของชีวิต ที่พ่อของเขาได้มีอิสระเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง พร้อมอักขระ ‘ปักษาในกรง’ ที่เลือนหายไป
ถึงแม้ว่าสุดท้ายเขาก็ไม่อาจเปลี่ยนสถานะตระกูลสาขาของตัวเองไปได้ แต่ ณ วินาทีนั้น เขามองออกไปนอกท้องฟ้าด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เขายังคงเป็น ‘ปักษาในกรง’ ที่ถูกกักขัง หากแต่คราวนี้เขาจะใช้กรงเล็บและจงอยปากหาทางทำลายกรงขังด้วยตัวเอง เพื่อที่สักวันหนึ่งเขาจะได้กลายเป็นปักษาที่ออกไปเริงร่าในท้องนภาได้อย่างที่ตัวเองตั้งใจ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล