การเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงนี้ผันผวนค่อนข้างมาก โดยปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วมาแตะระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์ ก่อนที่จะแข็งค่าอย่างรวดเร็วเช่นกันมาปิดตลาดในวันนี้ 30.23 บาทต่อดอลลาร์ คำถามคือ แล้วทิศทางของค่าเงินบาทระยะข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อไป
จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์ตลาดการเงินและวางแผนการลงทุน EASY INVEST บล.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ค่าเงินบาทที่ผันผวนสูงในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากสภาพคล่องต่ำ ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าราว 2% ซึ่งถือว่าผันผวนมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ราว 0.6-0.7% (จากตัวเลข Spot ที่ 30.27 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)
“บาทที่อ่อนค่าส่วนหนึ่งเจอแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และโดนกดดันด้วยทองคำที่ราคาปรับลงเร็ว เลยทำให้ค่าเงินบาทอ่อนเร็ว และบางส่วนมาจากการปรับตัวของบอนด์ยีลด์ด้วย”
ทั้งนี้คาดว่าสัปดาห์นี้ (1-5 มีนาคม 2564) อยู่ที่ 30.00-30.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนเดือนนี้มีโอกาสจะแข็งค่าที่ 30.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่วนช่วงไตรมาส 2 มองว่าหลายประเทศจะเริ่มพูดคุยเรื่องการคลายล็อกดาวน์ ที่จะส่งผลต่อการท่องเที่ยวได้มากขึ้น มีโอกาสที่เงินบาทจะแข็งค่าในช่วงกลางปี 2564 ที่ 29.70 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น หากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง โดยต้องติดตามข่าวแพ็กเกจการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งแพ็กเกจรับมือกับโควิด-19 ที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และหากสหรัฐฯ เดินหน้าการลงทุนด้านอื่นๆ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน น่าจะส่งผลให้เม็ดเงินกระจายไปทั่วโลก (จากการซื้อของ หรือเม็ดเงินไหลเพื่อการลงทุน)
ด้าน รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการสายงานวางแผนโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ค่าเงินบาทวันนี้ผันผวนมาก โดยในช่วงเช้าขยับสู่ระดับ 30.40 บาทต่อดอลลาร์ มาจากแรงซื้อดอลลาร์ของผู้ค้าทองในประเทศ และช่วงบ่ายแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 30.26 บาทต่อดอลลาร์จากแรงขายของผู้ส่งออก ซึ่งเงินบาทผันผวนอย่างต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ภายในสัปดาห์นี้ ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทต้องติดตามการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะออกมาเพิ่มเติมเพื่อดูแลบอนด์ยีลด์อย่างไร หาก Fed สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในการดูแลบอนด์ยีลด์ได้ และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ นิ่ง ย่อมส่งผลตีต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกจากการลดถือดอลลาร์ลง
ขณะที่สัปดาห์นี้คาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ 29.85-30.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีโอกาสที่เดือนกุมภาพันธ์นี้ค่าเงินบาทอาจจะแข็งค่าต่ำกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์ และช่วงกลางปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ 29.50 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างทางจะมีความผันผวนจากบอนด์ยีลด์เป็นหลัก
“หากตลาดไม่เชื่อ หรือ Fed คุมบอนด์ยีลด์ไม่ได้ มองว่าในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ค่าเงินบาทจะผัวผวนกว่าเดิม และเดือนมีนาคม 2564 นี้ ค่าเงินบาทจะผันผวนมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา”
ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (1-5 มีนาคม 2564) จะอยู่ในกรอบ 30.20-30.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิทั้งหุ้นและและพันธบัตรไทย
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากการปรับตัวขึ้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
โอกาสของเศรษฐกิจโลกอยู่ตรงไหน ไทยตกขบวนการฟื้นตัวหรือไม่? บิตคอยน์คือ สินทรัพย์ทางเลือก หรือฟองสบู่ที่รอวันแตก? เราควรปรับพอร์ตอย่างไรเพื่อเติบโตท่ามกลางความตกต่ำ
ร่วมกันค้นหาคำตอบใน THE STANDARD WEALTH FORUM: Catch the Next Curve
สิทธิพิเศษ! ลงทะเบียนรับรหัสจำนวนจำกัด เพื่อเข้าชมถ่ายทอดสดได้ที่ thestandard.co/events
