สร้างความแกร่งในตลาดสุขภาพและความงามไม่หยุด ล่าสุด ‘Watsons’ เดินหน้าสานต่อกลยุทธ์ O+O เพิ่มประสบการณ์ช้อปปิ้งไร้รอยต่อ พร้อมเปิดตัว PromoChuem และโปรโมชัน ซื้อชิ้นที่สอง 1 บาท ถี่ขึ้น หลังเป็นช่วงที่ขายดีสุด
หลังจากก้าวเข้ามาในตลาดร้านสุขภาพและความงามก่อนใคร ปัจจุบัน ‘Watsons’ ขึ้นเป็นผู้นำตลาดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยสาขาที่มากกว่าคู่แข่งอย่าง Boots และ Tsuruha ที่เข้ามาร่วมชิงส่วนแบ่งตลาดความงามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘อีฟแอนด์บอย’ ทุ่ม 200 ล้าน ทำแคมเปญใหญ่ ดึง ‘มาร์ค ต้วน’ นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ปูทางสาขาขยายไปต่างประเทศ
- เมื่อผู้หญิงไทยไม่หยุดสวย ตลาดความงามไทยจึงกลับมาเติบโต ‘L’Oréal Thailand’ เชื่อการถอดหน้ากากจะทำให้ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
- เทรนด์เครื่องสำอางเปลี่ยน-แข่งขันสูง ศรีจันทร์นำแบรนด์ sasi ดึง BT21 ออกโปรดักต์ใหม่กระตุ้นยอดขายปลายปี ย้ำปี 66 ธุรกิจตั้งรับความเสี่ยงรอบด้าน
แต่ก็ยังไม่สามารถสู้กับ Watsons ได้ ด้วยจุดแข็งของกลยุทธ์ O+O (โอพลัสโอ) ที่ Watsons ใช้มานานถึง 6 ปี จนกลายเป็นกุญแจความสำเร็จไปแล้ว และในปีนี้สิ่งที่น่าสนใจ คือการเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ PromoChuem ให้ส่วนลด 5% กับสมาชิก Watsons ที่มีอยู่ 8 ล้านคน พร้อมลอนซ์โปรโมชัน 1 แถม 1 และชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท ถี่มากขึ้น ซึ่งจากเดิมจะจัดประมาณ 2 ครั้งต่อปี
“ช่วงที่จัดแคมเปญโปรโมชันถือว่าตรงกับคาแรกเตอร์ของ Watsons และเป็นช่วงที่ขายดีที่สุด” พสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าว
สเต็ปถัดไปเตรียมพัฒนาโปรดักต์ภายใต้แบรนด์ของ Watsons ทั้งโพชันนัลแคร์ สกินแคร์ และสุขภาพ อีก 150 รายการ จากปัจจุบันมีทั้งหมด 880 รายการ โดยเน้นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย เนื่องจากผู้ชายเริ่มให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีกระแสคู่จิ้นมาแรง ทำให้สัดส่วนการขายของกลุ่มสกินแคร์ผู้ชายเริ่มโตขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก
พร้อมเดินหน้าต่อยอดการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งออฟไลน์และออนไลน์แบบไร้รอยต่อ หลังการเก็บข้อมูลลูกค้าพบว่า ออนไลน์ไม่ได้ส่งผลให้ยอดขายหน้าร้านลดลง ในทางกลับกันยังมีผู้บริโภคบางกลุ่มที่นิยมช้อปปิ้งผ่านออนไลน์เพราะมีรายการสินค้าให้เลือกมากกว่าหน้าร้าน และมีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้าที่ซื้อเฉพาะหน้าร้านอย่างเดียวถึง 3 เท่า
จากโอกาสดังกล่าวจึงเตรียมสร้างคลังสินค้าใหม่เพื่อใช้รองรับการเติบโตช่องทางออนไลน์ รวมถึงแผนขยายสาขาอีก 50 แห่งต่อปี จากปัจจุบันมีทั้งหมด 660 สาขา
“เป้าหมายใหญ่ของเราอยากเปิดให้ครบ 1,000 สาขา ภายใน 3 ปี เพราะยอดขายหลักของบริษัทยังมาจากหน้าร้าน”
รวมถึงการเดินหน้าผลักดันสมาชิกให้ขึ้นไปอยู่ในระดับอีลิทหรือพรีเมียม เพราะมียอดจับจ่ายสูงถึง 4.9 เท่า ซึ่งปัจจุบันนั้นมีสัดส่วนที่ยังน้อย เนื่องจากต้องซื้อสินค้าครบ 14,000 บาทขึ้นไปถึงจะเป็นสมาชิกระดับอีลิท
จากกลยุทธ์ทั้งหมด เชื่อว่าจะทำให้ Watsons สร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะวันนี้ความท้าทายของการทำธุรกิจ คือความต้องการของลูกค้าที่ซับซ้อนขึ้น และต้องการสินค้าอย่างรวดเร็ว จึงต้องปรับตัวให้ทัน
หากย้อนไปในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Watsons มีการเพิ่มสินค้า จากแบรนด์สุขภาพและความงาม เข้าเสริมพอร์ตทั้งช่องทางหน้าร้านและออนไลน์อยู่เป็นระยะๆ พร้อมทำการตลาดในรูปแบบของการอาศัยเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Watsons TH เชื่อมต่อกับหน้าร้าน Watsons เปิดให้บริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Click & Collect ช้อปออนไลน์แต่รับสินค้าสาขาใกล้บ้าน ตามด้วย Watsons Chat & Shop ช้อปแบบเรียลไทม์ผ่านการคุยกับพนักงานประจำร้าน Watsons กว่า 250 สาขา เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับสมาชิกและเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้งให้สะดวกมากขึ้น