×

26 ชั่วโมง เหตุเพลิงไหม้ถังสารเคมีมาบตาพุด จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำ-โฟมรักษาอุณหภูมิต่อเนื่อง ด้าน รมว.อุตสาหกรรม-บริษัทเอกชนน้อมขอโทษประชาชน เยียวยาขั้นสูงสุด

โดย THE STANDARD TEAM
10.05.2024
  • LOADING...

วันนี้ (10 พฤษภาคม) พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และคณะผู้บริหารบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCG) ร่วมแถลงข่าวและลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสาร Pyrolysis Gasoline (แก๊สโซลีน) ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

 

วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม ในขั้นต้นที่เกิดเหตุทางบริษัทเอกชนได้ปฏิบัติตามแผนความปลอดภัยที่ได้มีการซักซ้อมของตนเอง ซึ่งในส่วนนี้ถ้าโรงงานมีแผนรับมือได้ ทางการนิคมฯ จะให้โรงงานเป็นผู้รับผิดชอบควบคุมเหตุที่เกิด แต่หากเหตุการณ์ลุกลามเพิ่มขึ้นก็จะมีการดำเนินการลำดับต่อไป ซึ่งจะต้องใช้หน่วยงานทั้งจากทางการนิคมฯ และเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยเข้ามาระงับเหตุด้วย

 

ตามรายงานที่ได้รับในช่วงเช้าหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ของบริษัทสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ด้วยความร้อนในช่วงตอนกลางวันทำให้อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ประกอบกับเพลิงไหม้ครั้งแรกตัวฝาของถังสารเคมีปิดอยู่ ทำให้เกิดปฏิกิริยาด้านในและเกิดการปะทุในรอบที่สอง ทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องระดมกำลังเข้าดับเพลิง

 

วีริศกล่าวต่อว่า ระยะเวลาที่มีการควบคุมเพลิงจนถึงปัจจุบันที่ยังอยู่ในขั้นของการเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามวิธีการอย่างครบถ้วนและเชื่อว่าเป็นการดับไฟที่มีประสิทธิภาพ เพียงแต่ปริมาณสารเคมีมีจำนวนมาก จึงอาจจะสร้างความกังวลต่อชุมชนและสังคมโดยรอบ แต่ขอยืนยันว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ด้วยความสามารถของทีมดับเพลิงจากทุกภาคส่วน

 

ขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพยายามควบคุมความร้อน โดยใช้โดรนขึ้นบินในพื้นที่เพื่อวัดอุณหภูมิตลอดเวลาไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มสูง เจ้าหน้าที่ภาคพื้นใช้วิธีการฉีดน้ำหล่อเย็นให้อุณหภูมิต่ำตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดการปะทุ และใช้โฟมฉีดที่ผิวหน้าด้านบนสารเคมีเพื่อให้แน่ใจว่าสารเคมีที่หลงเหลือจะไม่เป็นปัญหา

 

ด้านพิมพ์ภัทรากล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องผ่านระบบออนไลน์เพื่อควบคุมสถานการณ์ และได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนให้มากที่สุดและคืนพื้นที่ให้ได้เร็วที่สุด

 

ทั้งนี้ประเด็นแรกที่ตนอยากจะสื่อสารถึงประชาชนคือ ต้องกราบขอโทษในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตนต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนที่อยู่รอบบริเวณดังกล่าวและทางจังหวัดระยองที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เราทุกคนไม่ได้อยากให้เกิด แต่ในเมื่อเกิดเหตุแล้วจากนี้จึงต้องวางแผนรับมือให้ดีทั้งสถานการณ์ปัจจุบันและในอนาคตที่จะต้องเฝ้าระวัง ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสามารถควบคุมเหตุเพลิงไหม้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนดทุกอย่าง

 

ทางผู้แทนของบริษัท SCG ได้เข้ามาพูดคุยถึงมาตรการเยียวยาที่เกิดขึ้นทั้งกับผู้ปฏิบัติงานที่บาดเจ็บสาหัส ผู้เสียชีวิต และประชาชนโดยรอบ โดยทางเอกชนยืนยันว่าจะมีการเยียวยาในมาตรการที่สูงที่สุด รวมทั้งจะสนับสนุนการตรวจวัดคุณภาพอากาศหลังจากนี้ไปอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่สภาวะที่ปลอดภัย

 

พิมพ์ภัทรากล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำอีก แต่ขอเวลาให้บริษัทเอกชนได้สรุปประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นว่าสาเหตุมาจากอะไร เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเราสามารถคืนพื้นที่ให้ประชาชนให้กลับเข้าไปอาศัยในบ้านของตัวเองได้อย่างปลอดภัย

 

ส่วนที่หลายท่านมองว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดแล้ว เกิดอีก เกิดซ้ำซาก ตนขอชี้แจงว่า การเกิดเหตุการณ์แบบนี้แต่ละครั้งมีสาเหตุที่แตกต่างกันไป ขอให้ทางเอกชนได้สรุปประเด็นสาเหตุเพื่อตอบสังคมอีกครั้งหนึ่ง

 

ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท SCG กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นต้องชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ที่ขึ้นไปบนถังสารเคมีเพื่อปฏิบัติงานไม่ได้ขึ้นไปเพื่อปิดวาล์วถังสารเคมี แต่เป็นการขึ้นไปด้านบนเพื่อเช็กระดับสารเคมีในถังว่าตัวเลขตรงกันกับเครื่องมือที่ติดตั้งอยู่หรือไม่ ซึ่งต้องใช้เจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญการขึ้นไปปฏิบัติงานโดยตรง

 

ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่ได้รับอนุญาตทั้งหมดมีความชำนาญและทำงานมาเป็นระยะเวลานาน ขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงในการเกิดเพลิงไหม้ในถังสารเคมี จนเป็นเหตุให้มีผู้ปฏิบัติงานเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส

 

ทางบริษัท SCG จะมีมาตรการชดเชยเยียวยาดูแลผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตขั้นสูงสุด ในส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิต บุตรหลานจะได้รับการศึกษาจนถึงระดับสูงสุดและมีการช่วยเหลือเงินที่จำเป็นในทุกด้าน

 

ส่วนเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในครั้งที่ผ่านมาเกิดในช่วงการหยุดซ่อมบำรุงของโรงงาน และทางบริษัทได้ส่งผู้รับเหมาเข้าไปทำงาน แต่เกิดความผิดพลาดในส่วนของผู้รับเหมา ตั้งแต่นั้นทางบริษัทจึงเพิ่มมาตรการว่าใครจะเข้าพื้นที่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ส่วนในครั้งนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าสาเหตุมาจากสิ่งใด ทั้งนี้ต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้เกิดผลกระทบจนมีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และกระทบกับชุมชนทั้งหมด

 

ธรรมศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวถังสารเคมีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มีความจุอยู่ที่ประมาณ 9,000 ลูกบาศก์เมตร ณ เวลาที่เกิดเหตุมีสารเคมีอยู่ประมาณ 7,000 ลูกบาศก์เมตร ขณะนี้คาดการณ์ว่ามีสารเคมีหลงเหลือไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตร หลังจากที่ควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมดแล้ว ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

 

สารเคมีดังกล่าวมีจุดระเหยอยู่ที่ 42 องศาเซลเซียส และมีจุดวาบไฟอยู่ที่ 300 องศาเซลเซียส ฉะนั้นหากปล่อยไว้โดยไม่ฉีดโฟมควบคุมด้านบนสารดังกล่าว อาจจะระเหยออกได้ หรือหากไม่มีการควบคุมอุณหภูมิ อาจจะมีการติดไฟได้ ซึ่งเป็นไปได้ยากแล้วใน ณ ขณะนี้

 

ภายหลังการแถลงข่าวเวลา 12.30 น. ทีมข่าว THE STANDARD ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุถังเก็บสารเคมีเพลิงไหม้ เพื่อสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นร่วมกับทีมคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยยังคงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงรักษาอุณหภูมิของตัวถังที่เกิดเพลิงไหม้และถังใกล้เคียงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีการฉีดโฟมเข้าไปด้านในถัง ซึ่งปัจจุบันฝาถังได้ระเบิดออกไปแล้ว เพื่อให้โฟมอยู่บนผิวหน้าของสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ป้องกันการระเหยออก

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising