×

16 ปี เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรักที่ไม่มีวันลืม

24.06.2018
  • LOADING...

24 มิถุนายน 2547 คือวันแรกที่ภาพยนตร์ เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก เข้าฉายอย่างเป็นทางการ หลังจากเปิดฉายรอบพิเศษหนึ่งสัปดาห์ล่วงหน้าเพื่อหวังกระแสปากต่อปาก เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าหนังรักดราม่าสำหรับคนไทยมักไม่ใช่หนังทำเงิน

 

แต่เมื่อ เดอะ เลตเตอร์ เข้าฉายก็กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ล้างอาถรรพ์หนังรักที่มักไม่รุ่งได้อย่างราบคาบด้วยรายได้เปิดตัว 4 วันแรก 15.4 ล้านบาท และทำรายได้รวมทั้งสิ้น 43.7 ล้านบาท นับเป็นหนังทำเงินอันดับ 5 ของปี 2547 (รองจาก ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ 110 ล้านบาท, บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 74.4 ล้านบาท, โหมโรง 52.7 ล้านบาท และ สายล่อฟ้า 47.1 ล้านบาท)

 

เดอะ เลตเตอร์ เป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของ ผอูน จันทรศิริ อำนวยการสร้างโดย นนทรีย์ นิมิบุตร และดวงกมล ลิ่มเจริญ ถึงแม้ว่าดวงกมลจะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ผอูนเพื่อนรักของเธอยังคงรักษาสัญญาเดินหน้าทำหนังจนจบ และส่งเข้าฉายจนกลายเป็นหนังไทยที่จะอยู่ในหัวใจใครที่ได้ดูไปตลอดกาล

 

ผอูน จันทรศิริ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “เพื่อนสนิทพี่เป็นโปรดิวเซอร์ คือคุณอ้อม ดวงกมล รวมทั้งรู้จักกับคุณอุ๋ย นนทรีย์ ด้วย ตอนคุณอ้อมชวนมาทำก็คิดอยู่ประมาณหนึ่ง เพราะเราอยู่ในวงการโทรทัศน์จนคุ้นชินกับมัน ไม่อยากไปเริ่มอะไรใหม่ แต่พอคุณอ้อมขอร้องให้ทำเลยตัดสินใจว่า เอาวะ ยังไงก็ลองกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกนี้ดู”

 

ต้นบ๊วยที่ยอดดอย พ่อของต้นปลูกต้นบ๊วยนี้ไว้ และเมื่อพ่อกับแม่จากโลกนี้ไปแล้ว ต้นจึงมีต้นบ๊วยเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่

 

เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก เล่าถึงเรื่องราวของ ดิว โปรแกรมเมอร์สาวที่พักอยู่กับ เกด เพื่อนสนิทที่กรุงเทพฯ ดิวต้องเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อร่วมงานศพยายเล็ก ญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ และการไปครั้งนั้นทำให้เธอได้พบกับ ต้น นักวิจัยหนุ่มของโครงการหลวง และเริ่มผูกพันกลายเป็นความรัก เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ ดิวพบว่าเกด เพื่อนสาวเพียงคนเดียวถูกฆาตกรรมหลังไปนัดบอดทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ดิวตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านยายเล็กที่เชียงใหม่และแต่งงานกับต้น ทั้งคู่พบจดหมายรักที่ผู้ชายคนหนึ่งเขียนหายายเล็ก ความประทับใจในถ้อยความในจดหมายทำให้ต้นหวังว่าวันหนึ่งเขาจะเขียนจดหมายได้แบบนี้บ้าง จนเมื่อเขาล้มป่วย แพทย์ตรวจพบว่าเขามีเนื้องอกในสมองและจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

 

หลังจากที่ต้นเสียชีวิต ดิวกำลังคิดจะย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ก็ได้รับจดหมายลึกลับเสียก่อน นั่นคือจดหมายจากชายคนรักที่ตั้งใจเขียนมาหาทุกวันเพื่อเป็นกำลังใจให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และนี่คือความรักแสนบริสุทธิ์ที่เขามอบให้ในวาระสุดท้าย

 

 

“หนังเรื่องนี้มันสะท้อนให้เห็นความรักในอุดมคติ คนสองคนอยู่ต่างที่กัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือยังไงก็ตาม ถ้ามันเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ถ้ามันอยู่บนความคิดว่าผมอยากทำให้คุณมีความสุขที่สุดในโลก มันไม่เห็นแก่ตัว มันคือความรักที่ให้จริงๆ ให้ทั้งชีวิตทั้งใจทุกอย่าง” หนุ่ม-อรรถพร ธีมากร เคยให้สัมภาษณ์ไว้

 

 

หลายคนอาจจะสับสนจากชื่อเรื่องที่คล้ายกับภาพยนตร์ Love Letter ของญี่ปุ่น แต่จริงๆ แล้ว เดอะ เลตเตอร์ มีต้นทางมาจากภาพยนตร์เกาหลีใต้ Pyeon Ji (1997) ซึ่งดวงกมล โปรดิวเซอร์ของหนังชื่นชอบมากจนซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างใหม่ และนอกจากเรื่องราวความรักสุดซาบซึ้ง โลเคชันการถ่ายทำที่สวยงาม จุดเด่นที่สุดของเรื่องต้องยกให้การแสดงของ แอน ทองประสม และอรรถพร ธีมากร ที่เคมีเข้ากันจนแสดงได้ราวกับเฝ้ามองชีวิตจริงที่เกิดขึ้น เชื่อเถอะว่าใครที่ใจแข็งแค่ไหนได้ดูก็ต้องเสียน้ำตาตามแน่ๆ

 

 

ผอูน จันทรศิริ ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในช่วงที่หนังเข้าฉายว่า “แอนร้องไห้กี่ซีน อันนี้เกินความสามารถที่จะนับ เพราะครึ่งเรื่องหลังเธอร้องไห้เกือบทุกซีน มันจะมีร้องมาก ร้องน้อย น้ำตาคลอ ร้องนิ่งๆ น้ำตาไหลอยู่ข้างใน… สำหรับแอนเป็นนักแสดงที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจมาก แล้วหนังเรื่องนี้เทกไม่ค่อยบ่อย ขออวดว่าใช้ฟิล์มน้อยมาก เพราะนักแสดงทุกคนเก่งมาก”

 

หลังจาก เดอะ เลตเตอร์ จดหมายรัก เข้าฉายและกลายเป็นปรากฏการณ์ หนังเรื่องนี้ยังส่งให้แอน ทองประสม ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีใหญ่ถึง 3 รางวัล ได้แก่ รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง

 

“แอนเชื่อว่าคนที่เดินออกไปจากโรงภาพยนตร์ก็คงจะกลับไปรักแฟนตัวเองให้มากขึ้น จากที่เคยทะเลาะ เคยไม่ดีต่อกันไว้ ก็อาจจะรู้สึกว่าเวลามันสั้นนะ เรากลับไปดีกันดีกว่า” แอน ทองประสม ให้สัมภาษณ์เอาไว้

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising