ในที่สุดภารกิจการนำคนไทยกลับจากอู่ฮั่น หลังการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยเครื่องบินของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินพิเศษ FD 571 ได้ลงจอดที่รันเวย์ของกองบินทหารเรือ (กบร.) ซึ่งอยู่ติดกับสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ในเวลา 20.40 น. พาคนไทยจากอู่ฮั่นเดินทางกลับถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ถึงภาพรวมการรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ว่า มีคนไทยเดินทางกลับจำนวน 138 คน มี 3 คน ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย โดย 2 คน ทางการจีนตรวจพบว่า มีไข้สูง ซึ่งมาตรฐานมีการกำหนดไว้ไม่เกิน 37.3 องศาเซลเซียส เเต่ 2 คนดังกล่าว ตรวจวัดได้ 37.4 กับ 37.5 องศาเซลเซียส ทางการจีนจึงได้กักตัวไว้ และไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ทั้งสองคนได้รับการดูเเลเป็นอย่างดีจากทางการจีน รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตคอยดูเเลด้วย ส่วนอีก 1 คน ที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย เนื่องจากวีซ่าขาด
สำหรับการนำคนไทยกลับบ้านในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกองทัพเรือที่อำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้าน เเละกระทรวงการต่างประเทศที่มีการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ยืนยันว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ต้องรอก็เนื่องด้วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
ด้าน ชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีคนไทยลงทะเบียนขอกลับประเทศจำนวน 160 คน เเต่วันนี้มี 141 คน เดินทางมาที่สนามบินอู่ฮั่น แต่ไม่ผ่านการคัดกรอง 3 คน เป็นนักศึกษา 2 คน ชาย 1 คน หญิง 1 คน ทั้งคู่อายุ 24 ปี อุณหภูมิสูงเกินเกณฑ์ แต่ถือว่าไม่สูงจนถึงขั้นต้องไปโรงพยาบาล ทางการจีนจึงให้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน 14 วัน ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก โดยทางการจีนจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูเเล
ส่วนอีก 1 คน เป็นผู้ชาย วีซ่าขาด เนื่องจากอยู่ประเทศจีนเกินระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทั้งสามคนเสียใจที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของจีน ซึ่งรัฐบาลทำดีที่สุดเเล้ว
ขณะที่รัฐบาลไทยได้มอบเวชภัณฑ์พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น หน้ากากอนามัยจำนวน 4 ตัน ให้ทางการจีน โดยรองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลหูเป่ยเป็นตัวแทนรับ
อย่างไรก็ตาม คนไทยที่ต้องกักกันโรคมีจำนวน 6 คน จากจำนวน 138 คน ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ส่วนที่เหลือจะถูกส่งตัวเข้าพักภายในอาคารรับรอง ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยใช้อาคาร 3-7 ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมเพื่อรองรับคนไทย และจะต้องเฝ้าระวังติดตามอาการเป็นเวลา 14 วัน
ส่วนเจ้าหน้าที่แพทย์และลูกเรือที่ไปในภารกิจครั้งนี้ ได้รับการฆ่าเชื้อและสวมชุดป้องกันโรคตลอดเวลา เมื่อลงมาแล้วได้รับการตรวจไข้ สังเกตอาการ และกลับไปพักผ่อนได้
