×

ทีมหมูป่าเผยนาทีชีวิตติดถ้ำหลวง 10 วันโดยไม่มีเสบียง จัดลำดับออกถ้ำ ใครบ้านไกลได้ออกก่อน

โดย THE STANDARD TEAM
18.07.2018
  • LOADING...

วันนี้ (18 ก.ค.) เวลา 18.00 น. ทีมหมูป่าอะคาเดมีและโค้ชทั้ง 13 ชีวิตร่วมกันแถลงข่าวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในถ้ำหลวง โดยมี สุทธิชัย หยุ่น รับหน้าที่เป็นพิธีกรถามคำถามแทนสื่อที่ให้ส่งคำถามมาคัดกรองล่วงหน้าโดยนักจิตวิทยา

 

สำหรับทีมหมูป่าและโค้ช ได้แก่

  1. ด.ช.ชนินทร์ วิบูลย์รุ่งเรือง (ไตตั้น)
  2. ด.ช.ณัฐวุฒิ ทาคำทรง (เติ้ล)
  3. ด.ช.ดวงเพชร พรมเทพ (ดอม)
  4. ด.ช.ประจักษ์ สุธรรม (โน้ต)
  5. ด.ช.พรชัย คำหลวง (ตี๋)
  6. ด.ช.ภาณุมาศ แสงดี (มิกซ์)
  7. ด.ช.มงคล บุญเปี่ยม (มาร์ค)
  8. ด.ช.สมพงษ์ ใจวงศ์ (พงษ์)
  9. ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน (อดุลย์)
  10. นายพิพัฒน์ โพธิ (นิค)
  11. นายพีรพัฒน์ สมเพียงใจ (ไนท์)
  12. นายเอกรัฐ วงศ์สุขจันทร์ (บิว)
  13. และนายเอกพล จันทะวงษ์ (โค้ชเอก)

 

 

ทีมหมูป่าเผยวินาทีพบนักดำน้ำชาวอังกฤษ

อดุลย์เล่าให้ฟังว่าระหว่างที่เรานั่งขูดหินที่ผนังถ้ำเพื่อหาทางออก เราได้ยินเสียงคนคุยกัน โค้ชเอกก็ได้ยินเสียงคนคุยกัน จึงสั่งให้ทุกคนเงียบ

 

ตอนแรกโค้ชเอกสั่งให้มิกซ์ลงไปก่อน เพราะมีไฟฉาย แต่มิกซ์ยังกล้าๆ กลัวๆ อดุลย์จึงตัดสินใจเอาไฟฉายลงไป

 

เมื่อไปถึงเห็นคนโผล่ขึ้นมาคุยกัน ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นคนไทย จึงส่งเสียงเรียกว่า “เจ้าหน้าที่”

 

แต่ต่อมาก็ตกใจที่เห็นว่าเป็นฝรั่ง จึงทักไปว่า “Hello”

 

อดุลย์บอกว่ามันเป็นสิ่งมหัศจรรย์มากๆ พอเขาขึ้นมาปุ๊บก็ถามเราว่า How are you?

 

จากนั้นนักดำน้ำอังกฤษก็ให้เราขึ้นไปอยู่บนเนินสูง

 

 

เข้าไปในถ้ำทำไม

โค้ชเอกบอกว่าปรึกษากันก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไปเที่ยวถ้ำหลวง จึงวางโปรแกรมซ้อมอุ่นเครื่องกับทีมสนามบนดอย

 

พอเตะฟุตบอลอุ่นเครื่องจบก็พากันไปที่ถ้ำหลวง ซึ่งโค้ชเอกและน้องอีก 3 คนเคยเข้าไปแล้วก่อนหน้านี้

 

โค้ชเอกบอกว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเข้าไปถึงเนินนมสาวแล้ว และเมื่อเข้าไปครั้งนี้บริเวณสามแยกก็มีน้ำขังนิดๆ เหมือนครั้งก่อนหน้านี้

 

ยืนยันไม่ได้ไปจัดงานวันเกิดใคร และไร้เสบียงตลอด 10 วัน

โค้ชเอกยืนยันว่าไม่ใช่เพราะไปฉลองวันเกิดใคร ถึงจะเป็นวันเกิดน้องไนท์ก็ต้องถึงบ้านก่อน 5 โมงเย็น เพราะคุณพ่อคุณแม่จัดงานวันเกิดรออยู่ที่บ้าน

 

ตอนรู้ว่าติดถ้ำหลวงคือขากลับออกจากถ้ำ พอไปถึงนครบาดาลบริเวณสามแยกก็เจอทางตัน มีทรายและหินปิดหมดเลย

 

แต่ตอนนั้นเด็กๆ ยังไม่คิดว่าจะติดถ้ำ เพราะเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์น้ำขึ้น-น้ำลง เข้าใจว่าพรุ่งนี้จะออกได้

 

โค้ชเอกบอกน้องๆ ให้ขุดร่องเพื่อระบายน้ำ แต่ขุดเท่าไรก็ไม่มีท่าทีว่าน้ำจะลดลง จึงต้องตัดสินใจค้างแรมในถ้ำโดยไม่ได้มีอาหารอะไรเตรียมเข้าไปเลย มื้อสุดท้ายคือที่สนามฟุตบอลตอนซ้อมเท่านั้น

 

โค้ชเอกเผยว่าวันแรกยังไม่กลัว เพราะคิดว่าพรุ่งนี้น้ำลงก็คงออกจากถ้ำได้ ระหว่างนั้นก็กินน้ำที่หยดจากหินย้อยอย่างเดียว ผ่านไป 2 วันก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแรง บางคนมีอาการหน้ามืด

 

ระหว่างนั้นยามว่างโค้ชเอกจะให้น้องๆ กินน้ำให้อิ่ม ก่อนจะใช้หินขุดผนังถ้ำเพื่อหาทางออก

 

จากนั้นผ่านไป 4-5 วันต้องตัดสินใจ 2 ทางว่าจะไปต่อที่ปลายถ้ำหรือจะหยุดอยู่ที่เดิม (บริเวณเนินนมสาว) เพราะถ้าไปต่อที่ปลายถ้ำ หากไม่เจอทางออกเราจะถูกปิดถึง 2 ชั้น

 

สุดท้ายจึงตัดสินใจอยู่ที่เนินนมสาวเพื่อรอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ จนในที่สุดก็พบกับนักดำน้ำชาวอังกฤษ

 

 

โค้ชเอกเลือกลำดับเด็กออกจากถ้ำ ใครบ้านอยู่ไกลได้ออกก่อน

หมอภาคย์ หรือพันโทนายแพทย์ภาคย์ โลหารชุน เปิดเผยว่าไม่คิดว่าจะสามารถนำน้องๆ ออกได้ทางปากถ้ำ

 

แผนการแรกคือการรอคอยให้น้ำลดลง โดยมีการนำเสบียงมาให้อยู่ได้ถึง 2 สัปดาห์ กับอีกแผนก็คือการใช้หน้ากากฟูลเฟซเพื่อนำตัวเด็กๆ ออกทางปากถ้ำ

 

โดยโค้ชเอกเป็นคนพิจารณาลำดับว่าใครจะได้ออกมาก่อน-หลัง เพราะทุกคนมีสภาพร่างกายแข็งแรงใกล้เคียงกัน

 

โค้ชเอกเรียงลำดับตามคนบ้านไกลและบ้านใกล้ โดยใครที่บ้านอยู่ไกลจะได้ออกไปก่อนเพื่อหวังจะให้ไปแจ้งกับผู้ปกครองว่าข้างในสบายดี และให้เตรียมกับข้าวไว้ให้

 

อาลัย ‘จ่าแซม’ บทเรียนหมูป่าและการได้สัญชาติ

โค้ชเอกเผยความรู้สึกเมื่อทราบข่าวว่ามีคนเสียสละชีวิตให้เรา 1 คน

 

ทุกคนรู้สึกช็อกและเสียใจมาก เหมือนตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้พี่จ่าแซมต้องจากไปและทำให้ครอบครัวพี่จ่าแซมต้องเดือดร้อน พร้อมโชว์ภาพวาดและความในใจรำลึกถึงจ่าแซม

 

บทเรียนครั้งนี้ของทีมหมูป่าทำให้เราซาบซึ้งในน้ำใจของทุกคน จะใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า จะใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท และรู้สึกเสียใจกับการกระทำโดยไม่คิดของตนเองก่อนหน้านี้ที่มีผลเสียหายตามมา

 

ส่วนเรื่องสัญชาติไทยของทีมหมูป่า ซึ่งมี 3 คนรวมถึงโค้ชเอกที่ยังไม่มีสัญชาติไทยนั้น นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าน้องๆ ได้ยื่นเรื่องไว้ที่อำเภอแม่สายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising