วันนี้ (7 พฤษภาคม) สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ติดค้างจากเหตุอาคารถล่มของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยขณะนี้ยังคงมีผู้สูญหายที่ต้องค้นหาอีก 12 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้มุ่งเป้าไปที่ 3 จุดต้องสงสัยหลัก คือ โซน A, B และ D
สำหรับโซน D ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ซากอาคารกองทับถมล้นออกมาจากตัวอาคารในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการค้นหาไปจนถึงชั้นทรายถม ส่วนโซน A ซึ่งเชื่อมต่อกับโซน D ด้านหน้าอาคาร ก็จะดำเนินการค้นหาจนถึงชั้นทรายถมเช่นกันเพื่อคลายข้อสงสัย อย่างไรก็ตาม จุดสำคัญคือโซน B ซึ่งเป็นเนินดินติดกับตัวอาคาร
จากการตรวจสอบล่าสุดโดยสุนัข K9 ในช่วงเช้า บ่งชี้ว่าอาจมีร่างผู้ประสบภัยในบริเวณนี้ ประกอบกับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่แจ้งว่าได้กลิ่นเป็นระยะ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งรื้อซากปูนเพื่อเข้าถึงจุดที่ K9 ชี้พิกัด โดยการรื้อถอนในโซน B จะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง มีการตัดเหล็กและแยกปูนให้พื้นที่แคบลงเพื่อความปลอดภัย
ในส่วนของพื้นที่รากฐานชั้นใต้ดินที่มีบางส่วนแตกหัก จะไม่ให้เครื่องจักรหนักเข้าทำงานโดยตรง แต่จะใช้แขนกลของเครื่องจักรยื่นเข้าไปเจาะสกัดปูน และใช้เครื่องตัดระบบแก๊สเพื่อลดน้ำหนักของกองวัสดุ นอกจากนี้ ยังมีการขยายการตรวจสอบไปยังจุดทิ้งกองเศษวัสดุในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยใช้โดรนถ่ายภาพทางอากาศเพื่อทำตารางแบ่งพิกัดพื้นที่ พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อาสาและสุนัข K9 เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้สูญหาย ซึ่งล่าสุดมีการปรับเพิ่มจำนวนจาก 103 ราย เป็น 109 ราย พร้อมวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อยืนยันที่อยู่สุดท้ายจากผลการสืบสวน และข้อมูลจากชิ้นส่วนที่ส่งไปสถาบันนิติเวชเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอเทียบกับญาติ
สุริยชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า หากไม่มีอุปสรรคเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถเปิดพื้นที่ค้นหาร่างผู้สูญหายได้ครบทั้ง 3 จุดภายใน 2 วัน หากการค้นหาและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าไม่มีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่แล้ว ข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณาของผู้อำนวยการเขตจตุจักร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อประกาศยกเลิกพื้นที่สาธารณภัยต่อไป