หุ้นกลุ่มธนาคารในญี่ปุ่นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล หรือบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ร่วงหนัก หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ พร้อมคงกรอบการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีไว้ นับเป็นการยุติการคาดการณ์ของตลาด ที่ลุ้นให้ BOJ ใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดขึ้น
ในช่วงบ่ายวันนี้ (18 มกราคม) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ร่วงลงเหลือ 0.36% ณ จุดหนึ่ง หลังจากพุ่งทะลุเพดานของ BOJ ที่ 0.5% ก่อนการประชุมของธนาคารกลาง 3 วันติดต่อกัน ขณะที่เงินเยนร่วงต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยลงมาอยู่ที่ประมาณ 131.20 ต่อดอลลาร์ จากประมาณ 128.50 ต่อดอลลาร์ ก่อนการประชุม
สะท้อนว่าการตัดสินใจของ BOJ วันนี้นำไปสู่การเทขายเงินเยนและซื้อเงินดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่าช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่นและสหรัฐฯ (Fed) จะยังคงกว้างขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ตามคาด! BOJ คงดอกเบี้ยติดลบ-กรอบเคลื่อนไหวบอนด์ยีลด์ ฉุดเงินเยนอ่อนค่าทะลุ 130 เยนต่อดอลลาร์อีกครั้ง
- บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.51% ทะลุเพดานกรอบนโยบายของ BOJ
- นักเศรษฐศาสตร์คาด BOJ อาจยกเลิกมาตรการ Yield Curve Control ในสัปดาห์นี้ หลังบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นพุ่งทะลุกรอบ 0.50%
ในวันนี้ค่าเฉลี่ยตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ทำสถิติสูงสุดในรอบปีที่มากกว่า 26,700 จุด ณ จุดหนึ่งของการซื้อขายช่วงบ่าย โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินเยน เช่น Toyota Motor ก็ปรับตัวขึ้น
สวนทางกับราคาหุ้นธนาคารญี่ปุ่นที่ร่วงหนัก เนื่องจากการตัดสินใจของ BOJ เป็นการดับความคาดหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการเลิกใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบก่อนกำหนด โดยดัชนี Topix ของหุ้นธนาคารญี่ปุ่นลดลงมากถึง 3.8% ณ จุดหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการลดลงระหว่างวันที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ ธนาคารเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวในตลาดโตเกียวที่ราคาหุ้นลดลงในวันนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นสามารถช่วยให้ธนาคารสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ได้มากขึ้น ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ช่องว่างอาจกว้างขึ้นอีก
โดยจะเห็นว่า นับตั้งแต่ BOJ เซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการขยายกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์ 10 ปี เมื่อเดือนธันวาคม ดัชนี Topix Banks ยังคงเพิ่มขึ้นประมาณ 16%
อ้างอิง: