จากกรณีที่ทาง บมจ.เบทาโกร หรือ BTG ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ 40 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดวันให้นักลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 10-12 และ 17 ตุลาคม 2565 และนักลงทุนสถาบันจองซื้อ 20-25 ตุลาคม 2565 และกำหนดวันเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565
โดยในการเสนอขายหุ้นสามัญของ BTG ในครั้งนี้มีจำนวนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด (รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากบริษัทฯ ในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 434.80 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 21.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดหลัง IPO บนสมมติฐานว่ามีการใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘เบทาโกร’ กำหนดราคาขายหุ้น IPO ที่ 40 บาท/หุ้น เตรียมโรดโชว์
- หุ้น BTG สุดฮอต! บล.บัวหลวง แจ้ง ‘ปิดรับจอง’ ก่อนกำหนด หลังนักลงทุนแห่จองซื้อหุ้น
- ‘เบทาโกร’ จ่อขาย IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ ระดมทุนสร้างฟาร์มและโรงงานใหม่ โดยใช้ชื่อย่อ BTG
นอกจากนี้ อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-allotment Option) จำนวนไม่เกิน 65,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 15.0% ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายตั้งต้น ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาระดับราคาหุ้น (Stabilization) ในช่วง 30 วันแรกหลังจากที่หุ้น BTG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ทั้งนี้ มีนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเข้าลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้น BTG เพื่อเป็น Cornerstone Investors ทั้งหมด 25 ราย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,286 ล้านบาท หรือคิดเป็น 77.1% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบันทั่วโลกในเบื้องต้น (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน)
โดย THE STANDARD WEALTH ได้สำรวจข้อมูลพบว่ามีนักลงทุนสถาบัน หรือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนของไทยที่ได้จองซื้อหุ้น IPO ของ BTG ในครั้งนี้รวมจำนวนทั้งสิ้น 10 แห่ง ซึ่งมีมูลค่าวงเงินรวมกันประมาณ 3,631 ล้านบาท
สำหรับรายชื่อ บลจ. ที่ได้เข้าจองซื้อหุ้น IPO ของ BTG ในครั้งนี้ ได้แก่
- บลจ.กรุงศรี จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 22 ล้านหุ้น มูลค่า 880 ล้านบาท
- บลจ.ทิสโก้ จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 15 ล้านหุ้น มูลค่า 600 ล้านบาท
- บลจ.เกียรตินาคินภัทร จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 10 ล้านหุ้น มูลค่า 400 ล้านบาท
- บลจ.กรุงไทย จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 8.3 ล้านหุ้น มูลค่า 332 ล้านบาท
- บลจ.พรินซิเพิล จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 8.12 ล้านหุ้น มูลค่า 325 ล้านบาท
- บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 7.95 ล้านหุ้น มูลค่า 318 ล้านบาท
- บลจ.บางกอกแคปปิตอล จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 7.5 ล้านหุ้น มูลค่า 300 ล้านบาท
- บลจ.เอ็มเอฟซี จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 4.4 ล้านหุ้น มูลค่า 176 ล้านบาท
- บลจ.วรรณ จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 3.75 ล้านหุ้น มูลค่า 150 ล้านบาท
- บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำนวนหุ้นที่ตกลงซื้อ 3.75 ล้านหุ้น มูลค่า 150 ล้านบาท
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP