วันนี้ (4 มิถุนายน) ช่องทางสื่อโซเชียลมีเดียของบรรดาสถานเอกอัครราชทูต ประเทศประชาธิปไตยต่างๆ ในประเทศไทย พร้อมใจกันโพสต์ข้อความถึงกรณี ‘การอุ้มหาย’ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 ปี การหายตัวไปของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมประชาธิปไตยที่หายตัวไปในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
โดยสถานทูตประเทศประชาธิปไตยอย่างน้อย 8 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถานทูตสหราชอาณาจักร, สถานทูตสวีเดน, สถานทูตนอร์เวย์, สถานทูตเดนมาร์ก, สถานทูตเยอรมนี, สถานทูตแคนาดา, สถานทูตออสเตรเลีย และสถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย ต่างระบุถึงเหตุการณ์อันน่าเศร้า ที่พลเมืองโลกหลายแสนคนในอย่างน้อย 85 ประเทศทั่วโลกได้หายตัวไปในระหว่างที่เกิดความขัดแย้งหรือมีการปราบปราม
เหยื่อของการบังคับบุคคลให้สูญหาย (Enforced Disappearance) อาจเป็นคนที่เรารัก เป็นคนใกล้ตัวเรา เป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นผู้นำชุมชนหรือเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้อื่น การบังคับบุคคลให้สูญหายยังคงเกิดขึ้นจริงในช่วงเวลานี้ อีกทั้งคดีบังคับบุคคลให้สูญหายที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลายจะนำไปสู่การลอยนวลพ้นโทษของผู้กระทำความผิด สร้างบรรยากาศความหวาดกลัวที่อาจทำให้ผู้อื่นไม่กล้าเรียกร้องหรือแสดงความคิดเห็น
การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นเรื่องที่มิอาจยอมรับได้และขัดต่อหลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เป็นอาชญากรรมต่อเนื่องเท่านั้น ผู้เสียหายจำนวนไม่น้อยมักจะถูกทรมานหรือสังหารโดยตัวแทนที่เกี่ยวข้องกับรัฐ บุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับคำสั่งจากรัฐ สร้างความเจ็บปวดให้แก่ครอบครัวผู้สูญหายเป็นอย่างมาก
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แอมเนสตี้ ประเทศไทย พร้อมด้วย สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของวันเฉลิม ได้เดินขบวนไปทวงถามความยุติธรรมที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นจดหมายในการทวงถามถึงความคืบหน้าในกรณีการหายตัวไปของวันเฉลิม พร้อมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 12 นาที เพื่อรำลึกถึง 12 เดือนที่วันเฉลิมได้หายไปจากหน้าที่พักในกัมพูชา ที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมในการตามหาเขาเป็นไปอย่างล่าช้า สิตานันระบุว่า วันนี้ตนต้องการความจริงใจจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล