วันนี้ (1 ตุลาคม) ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาลงมติโหวตคว่ำร่างงบประมาณส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเดินหน้าสู่การชัตดาวน์ในรอบ 7 ปี ว่า เรื่องการชัตดาวน์ก็ถือว่าเป็นมาตรการของสหรัฐฯ แต่ในส่วนของไทยได้มีการเจรจาเรื่องภาษีลงตัวแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะเป็นฝ่ายสหรัฐฯที่ยังไม่เรียบร้อย โดยเราจะเดินตามข้อตกลงที่ทำไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนหลังจากนี้เรื่องเศรษฐกิจโลกอาจจะผันผวนหนัก จะเตรียมการรับมืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจไม่ได้เพิ่งมาผันผวน เรารับมือมาโดยตลอด ซึ่งต้องเตรียมหาตลาดใหม่ๆ ไม่ใช่รอพึ่งพาจากที่ใดที่หนึ่งอย่างเดียว มีคำพูดอยู่ว่า “All is in one basket” ซึ่งการทำงานของตนก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จังหวัดเพชรบุรีเริ่มมีการปลดแรงงานเป็นพันคน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถามทุกเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เราต้องรู้ว่าอะไรที่เป็นอุปสรรคในการสร้างรายได้ และเป็นอุปสรรคต่อการค้า รัฐบาลก็พร้อมที่จะคลายล็อกอุปสรรคนั้น อะไรที่ติดเรื่องกฎระเบียบตรงไหนที่โบราณก็ต้องแก้ไข พร้อมระบุว่า ไม่จำเป็นต้องสั่งการรัฐมนตรีดูแลเป็นพิเศษ เพราะทุกท่านรู้หน้าที่ตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องบัญชาการอะไรมาก
ส่วนกรณีที่กัมพูชายื่นศาลโลกให้พิจารณาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ที่เป็นข้อผิดพลาดนั้น อนุทินกล่าวว่า ตนเองไม่ทราบ เรื่องจุดยืนของเรา คืออยู่ของเรา กัมพูชาจะไปยื่นอะไรก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน และจะยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศของไทยเป็นหลัก
ส่วนประธานคณะกรรมการ JBC ที่ใกล้จะหมดวาระ อนุทิน ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจะมีวาระการแต่งตั้งประธาน JBC อยู่ในนั้นด้วย ส่วนจะวางตัวใครไว้หรือไม่ ให้รอวันพรุ่งนี้ก่อน พร้อมยอมรับว่ามีคนในใจแต่ขอให้รอวันพรุ่งนี้ก่อน
ขณะที่ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า สหรัฐฯก็มีมาตรการของเขา ซึ่งเป็นการชัตดาวน์เรื่องการเมือง ท้ายที่สุดก็คงจะมีทางออก ส่วนทางไทยยืนยันไม่มีผลกระทบ