เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวานนี้ 25 สิงหาคม 2565 บมจ.เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ( ZEN ) เผยธุรกิจร้านอาหารแข็งแกร่งขึ้น ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงปัจจุบัน โดยพบว่าธุรกิจร้านอาหาร (78% ของรายได้) ยังคงมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง QoQ โดยได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น วันหยุดพิเศษในเดือนกรกฎาคม
รวมถึงกลยุทธ์ในการกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าร้าน เช่น เพิ่มบุฟเฟต์ที่มีราคาต่ำลงที่ ZEN Restaurant เพื่อขยายฐานลูกค้า และการแนะนำเมนูใหม่ ‘บุฟเฟต์ชาบู’ ที่ AKA ทั้งนี้ ยอดขายสาขา (SSS) ใน 3Q65 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจากฐานต่ำในปีก่อนที่มีสาเหตุมาจากการห้ามเปิดให้บริการร้านอาหารในศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มซึ่งรวมถึงกรุงเทพฯ
ในปี 2565 ZEN ตั้งเป้าเปิดสาขาที่บริษัทลงทุนเองเพิ่มอีก 20-25 สาขา ซึ่งบ่งชี้ถึงการรุกขยายสาขาอีก 12-17 สาขาใน 2H65 (เทียบกับ 8 สาขาใน 1H65) โดยส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ AKA ซึ่ง ZEN ได้เปิดไปแล้ว 4 สาขาในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และมีพื้นที่พร้อมเปิดเพิ่มอีก 8 สาขาจนถึงสิ้นปีนี้แล้ว
สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ มีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาแฟรนไชส์ใหม่ 50 สาขา มีความคืบหน้าค่อนข้างช้า เพราะเพิ่งเปิดได้ 7 สาขาใน 1H65 เนื่องจาก ZEN เปิดเผยว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์บางรายซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ เขียง เผชิญกับภาระทางการเงินเพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ZEN กำลังขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปสู่แบรนด์ AKA และจะประกาศเปิดสาขาแฟรนไชส์แห่งแรกใน 4Q65
ส่วนการบริหารจัดการต้นทุน ราคาปลาแซลมอนในตลาดโลกในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 11%YoY แต่เป็นการลดลง 43% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเมษายน และปลาแซลมอนคิดเป็นสัดส่วนราว 20% ของต้นทุนวัตถุดิบ
ซึ่ง ZEN มองว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยใน 2H65 เนื่องจากราคาเมนูที่สูงขึ้นและกลยุทธ์การตั้งราคาแบบยืดหยุ่นจะสามารถชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นได้ และบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างรายวันขั้นต่ำ (พนักงานพาร์ตไทม์คิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของต้นทุนพนักงาน)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น ZEN ปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.88%MoM อยู่ที่ระดับ 14.50 บาท ขณะที่ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.63%MoM สู่ระดับ 1,640.58 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2565:
SCBS คาดว่าผลประกอบการ 3Q65 จะปรับตัวดีขึ้น YoY จากฐานต่ำที่มีสาเหตุมาจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด และ QoQ จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น วันหยุดพิเศษในเดือนกรกฎาคม และธุรกิจอาหารค้าปลีกที่เติบโตเพิ่มขึ้น
ขณะที่ปรับประมาณการกำไรปกติเพิ่มขึ้น 79% ในปี 2565 เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 2Q65 ที่แข็งแกร่ง และ 5% ในปี 2566 เนื่องจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นจะช่วยชดเชยผลกระทบจากสมมติฐานที่คาดว่าต้นทุนค่าแรงจะเพิ่มขึ้น 5%
ทั้งนี้หลังจากปรับประมาณการ จึงคาดว่ากำไรปกติของ ZEN จะสูงกว่าระดับก่อนเกิดโควิด ที่ 126 ล้านบาทในปี 2565 และเติบโต 33% ในปี 2566
อย่างไรก็ดี ในปี 2565 ยังต้องจำตาปัจจัยสำคัญ คือ
- ต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการร้านอาหารซึ่งรวมถึง ZEN กำลังรับมือกับต้นทุนอาหารที่สูงขึ้นด้วยการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภคทั้งทางตรง (ปรับราคาเมนูเพิ่มขึ้น) และทางอ้อม (จัดโปรโมชันน้อยลง ปรับชุดอาหารใหม่) ความกังวลคือ ความอ่อนไหวต่อราคาของผู้บริโภคท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
- การขึ้นค่าจ้างรายวันขั้นต่ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหาร ทั้งนี้ ประมาณการกำไรปี 2566 ข้างต้นได้รวมเอาค่าแรงที่เพิ่มขึ้น 5% เข้ามาแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัว การแข่งขันรุนแรง และต้นทุนสูงขึ้น
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP