ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน แถลงช่วงกลางดึกวานนี้ (3 พฤศจิกายน) โดยประกาศชัดเจนว่าจะไม่เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปร่วมประชุมด้วย
“จุดยืนของผมและจุดยืนของยูเครนคือถ้าผู้นำของรัสเซียเข้าร่วม (ในการประชุม G20) ยูเครนจะไม่เข้าร่วม” เซเลนสกีกล่าว
สำหรับเซเลนสกีและปูตินนั้นได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประชุม G20 ทั้งคู่ แม้ว่าสมาชิกชาติตะวันตกบางประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร จะมองว่ารัสเซียไม่มีสิทธิ์ร่วมประชุม จากพฤติกรรมในการรุกรานยูเครน
ขณะที่ประธานาธิบดีปูตินกล่าวในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปร่วมการประชุม G20 หรือไม่
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องการประชุม G20 เซเลนสกียังประณามรัสเซียอย่างรุนแรงว่า ‘ก่อการร้ายด้านพลังงาน’ หลังทำการโจมตีโครงข่ายด้านพลังงานของยูเครน จนทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และพบว่ามีประชาชนกว่า 4.5 ล้านคน ที่กำลังเดือดร้อนจากการไม่มีไฟฟ้าใช้
“คืนนี้ ผู้บริโภคราว 4.5 ล้านคน ถูกตัดการเชื่อมต่อจากการใช้พลังงานเป็นการชั่วคราว” เขากล่าว
ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้โจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธและโดรน โดยพุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและระบบน้ำประปา จนทำให้หลายเมืองรวมถึงกรุงเคียฟ ประสบปัญหาระบบไฟฟ้าและประปาใช้การไม่ได้ในหลายพื้นที่
ขณะที่เซเลนสกีเผยว่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สถานีจ่ายไฟฟ้าทั่วประเทศราว 1 ใน 3 ถูกทำลายจากการโจมตีของรัสเซีย ซึ่งผลจากไฟฟ้าดับที่เกิดขึ้น ทำให้รัฐบาลเคียฟต้องเรียกร้องให้ประชาชนใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
สำหรับการโจมตีโครงข่ายพลังงานดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์สู้รบที่กองทัพยูเครนกำลังเป็นฝ่ายรุกคืบอย่างต่อเนื่อง โดยที่เมืองเคอร์ซอนทางตอนใต้ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกที่รัสเซียยึดได้ มีรายงานว่าทหารรัสเซียอาจจะถอนกำลังออกจากเมือง หลังปรากฏสัญญาณการล่าถอย เช่น การถอนธงออกจากอาคารรัฐบาลท้องถิ่น
ภาพ: GENYA SAVILOV / AFP
อ้างอิง:
