ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยแพร่คลิปวิดีโอแถลงการณ์ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 ตุลาคม) โดยระบุว่า กองทัพรัสเซียได้ปล่อยโดรนมากกว่า 30 ลำ โจมตียูเครนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่กองทัพยูเครนสามารถยิงโดรนแบบชาเฮด (Shahed) หรือโดรนติดระเบิดที่ผลิตในอิหร่าน ตกลงมาจำนวน 23 ลำ
ในการแถลงข่าว เซเลนสกีได้ยืนอยู่ข้างโดรนชาเฮด 1 ลำที่ถูกยิงตก ซึ่งนอกจากนี้เขาเปิดเผยว่า ทหารยูเครนได้ยิงสกัดขีปนาวุธนำวิถี Kh-59 พร้อมทั้งยิงเฮลิคอปเตอร์จู่โจมแบบ Ka-52 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินขับไล่ Su-25 อีก 1 ลำ ตกลงมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
ผู้นำยูเครนชี้ว่า นับตั้งแต่เริ่มสงคราม มอสโกได้โจมตียูเครนด้วยขีปนาวุธรวมทั้งหมด 4,500 ครั้ง และรวมการโจมตีทางอากาศทั้งหมดมากกว่า 8,000 ครั้ง
“เราจะตัดปีกของมอนสเตอร์โลหะเหล่านั้นไปด้วยกัน เครื่องบินของศัตรูจะตก เฮลิคอปเตอร์ของศัตรูจะร่วงลง โดรนชาเฮดจะตกลงมา มีแต่ประชาชนยูเครนเท่านั้นที่จะไม่ล้มลง” เซเลนสกีกล่าว
ทั้งนี้ ชาติตะวันตกเชื่อว่าอิหร่านได้จัดส่งโดรนชาเฮดจำนวนมากให้แก่รัสเซีย แต่ทั้งสองประเทศต่างยืนยันปฏิเสธว่าไม่เคยมีการทำข้อตกลงซื้อขายโดรนดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลเคียฟระบุว่า รัสเซียได้ใช้โดรนในการโจมตียูเครนแล้วมากกว่า 400 ลำ จากทั้งหมดที่ได้รับมามากกว่า 2,000 ลำ
แถลงการณ์ของผู้นำยูเครนมีขึ้นหลังจากที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกการใช้โดรนเพื่อรุกรานของรัสเซียว่าเป็นยุทธวิธีที่น่ากลัว พร้อมกล่าวหาผู้บัญชาการของรัสเซียว่าใช้โดรนในการสังหารพลเรือนชาวยูเครน ตลอดจนทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น รวมถึงไฟฟ้า น้ำประปา และระบบทำความร้อน
ภาพ: OFFICE OF THE PRESIDENT OF UKRAINE
อ้างอิง: