เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นช็อปสกินแคร์สายวีแกนที่ตกแต่งร้านด้วยโทนสีเขียวของต้นไม้ที่ดูสบายตาสบายใจ และบางคนก็เคยใช้ผลิตภัณฑ์ Yves Rocher เพราะชื่นชอบในส่วนผสมและสารสกัดที่คัดสรรจากธรรมชาติ
แต่รู้หรือไม่ว่า ในขณะที่เทรนด์ Clean Beauty, Green Beauty, Organic Beauty หรือ Vegan Beauty กำลังเป็นกระแสและเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ แบรนด์ Yves Rocher คือแบรนด์ที่มีจุดยืนเรื่องนี้มาตั้งแต่ยุคบุกเบิกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และเป็นแบรนด์ที่ประกาศตัวเป็นแบรนด์ Vegan 100% มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ดังนั้น THE STANDARD จึงอยากพาทุกคนไปรู้จักแบรนด์นี้ให้มากขึ้น เพราะล่าสุดเปิดตัว แพรี่พาย-อมตา จิตตะเสนีย์ เป็นตัวแทนคนล่าสุดของแบรนด์ที่จะมาช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้คอนเซปต์ ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’
เริ่มต้นจากการแนะนำประธานคนใหม่ของแบรนด์ วิลาสินี ภาณุรัตน์ ผู้ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในแวดวงตลาดความงามของแบรนด์ดังๆ ในประเทศไทย ที่ตอนนี้ขึ้นแท่นเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดคนใหม่ของแบรนด์ Yves Rocher (ในประเทศไทย) สดๆ ร้อนๆ เธอบอกเล่าความตั้งใจในการสร้างแคมเปญ ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’ ว่า “เราเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนล้วนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง การมีผิวสุขภาพดี เนียนนุ่ม มีผมสวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้สาวๆ ได้ และแบรนด์เรานำเข้าจากฝรั่งเศส 100% และเป็นแบรนด์ Vegan 100% ที่ไม่ใช้ส่วนผสมที่นำมาจากสัตว์ (ยกเว้นน้ำผึ้งและขี้ผึ้ง) และเป็นแบรนด์ที่ยกเลิกการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์มาตั้งแต่ปี 1989 ซึ่งเป็นความตั้งใจดีมากว่า 60 ปี ทำให้เราสร้างแคมเปญ ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’ เพื่อเป็นการร่วมใจกันใส่ใจ ห่วงใย และรักษาไว้ซึ่งความงดงามของธรรมชาติ ให้ผู้หญิงทุกคนยังสวยได้โดยไม่ทำร้ายโลกของเรา”
จากความตั้งใจนี้ ทำให้ THE STANDARD มีโอกาสร่วมทริปเอ็กซ์คลูซีฟไปสัมผัสกับวิถีออร์แกนิก ณ ไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย พร้อมกับเหล่าบิวตี้อินฟลูเอนเซอร์ และบิวตี้เอดิเตอร์จากสื่อและเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อเน้นตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม งานนี้ทำให้เราได้พบกับ แพรี่พาย-อมตา จิตตะเสนีย์ ผู้เป็นตัวแทนคนล่าสุดของแบรนด์ ที่จะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงในการรณรงค์ให้สาวๆ หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมของเรามากขึ้น พร้อมกับแขกคนพิเศษ นท พนายางกูร ที่อินกับกระแสรักษ์โลกและมีความมุ่งมั่นอยากให้สาวไทยใส่ใจธรรมชาติด้วยเช่นกัน
แพรี่พาย-อมตา จิตตะเสนีย์ เปิดใจถึงช่วงชีวิตที่แสวงหาคำตอบบางอย่างเกี่ยวกับคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองทำนอกเหนือจากการแต่งหน้า เมื่อเธอได้ใกล้ชิด หันกลับมาสัมผัสกับธรรมชาติ ก็ทำให้เธอได้ค้นพบความหมายใหม่ที่ขับเคลื่อนชีวิตของเธอให้มีความหมายที่ต่างออกไปจากความหมายเดิมๆ โดยสิ้นเชิง
แพรี่พาย: ก่อนหน้านี้แพรได้รู้จักกับพี่คนหนึ่งที่เป็นเกษตรกรทำเกษตรอินทรีย์อยู่ที่เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ก็ได้ไปเชื่อมโยงธรรมชาติกับนท (นท พนายางกูร) ที่เชียงดาว และการไปที่นั่นได้ทำให้ชีวิตของเราสองคนเปลี่ยนแปลงไป เป็นเวลาปีกว่าที่เรามีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสกับโลกที่เราไม่เคยได้มีโอกาสสัมผัสมาก่อน มันแตกต่างจากชีวิตเวลาที่เราอาศัยอยู่ในเมือง ที่ต้องเจอกับปัญหารถติด ตึกรามบ้านช่อง อะไรก็ไม่รู้บนมือถือที่วุ่นวายไปหมด แล้วพอวันหนึ่งเราได้เข้าป่าและมีโอกาสละทิ้งตัวตนของเรา โดยการถอดรองเท้าเดินเข้าป่า ลืมความเป็นแพรี่พาย ลืมความเป็นนท คือลืมไปว่าตัวเองเป็นแม้กระทั่งมนุษย์หรือเป็นคนที่มีชื่อเสียง แล้วเรามีโอกาสได้ยืนบนผืนดินเดียวกับที่สัตว์ป่ายืน มันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์มาก”
นท: นทเชื่อมาตลอดว่าคนเราก็คือธรรมชาติ เราเกิดมาอย่างเป็นธรรมชาติใช่ไหม แต่ตอนที่เราอยู่ในป่าคอนกรีตมันทำให้เราอาจหลงลืมไปว่าตัวเรามาจากอะไร เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่เรามีความทุกข์หรืออยู่ในความรู้สึกที่หลงทาง มันเป็นเพราะว่าเราไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เรากำเนิดออกมา นั่นคือธรรมชาติ ดังนั้นถ้าเราอยากมีพลังมากขึ้น อยากจะค้นพบความจริงของชีวิตเราเอง คำตอบก็คือจงเข้าหาธรรมชาติ นั่นคือสิ่งที่เราเจอ พอเราได้เข้าไปในนั้น เรารู้สึกมีความสุขจริงๆ เพราะมันออกมาจากข้างใน ทำให้รู้สึกว่านี่แหละความสุขที่แท้จริง
แพรี่พาย: สำหรับแพรมันมีช่วงเวลาหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นประมาณ 3 ปีมาแล้ว เป็นช่วงเวลาที่แพรพักจากเรื่องแต่งหน้าแล้วห่างๆ ไป เพราะตอนนั้นแพรรู้สึกว่าเริ่มไม่มีความสุขกับชีวิต มันเหมือนกับมีหลุมดำที่อยู่ในหัวใจของเรา รู้สึกสงสัยว่าทุกวันที่เราตื่นมา เรามีชีวิตมาเพื่อทำอะไร เราก็สนุกกับการแต่งหน้า วงการแฟชั่นกับบิวตี้มันได้เปลี่ยนให้เราได้ทำอะไรใหม่ๆ เปลี่ยนลุค เปลี่ยนเสื้อผ้า ได้ลองโน่นลองนี่ใหม่ๆ แต่พอทำต่อเนื่องไปสักระยะเวลาหนึ่ง เราก็รู้สึกว่าความสุขแบบนั้นมันไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง มันค่อนข้างฉาบฉวยด้วยซ้ำ ด้วยความที่เรามีหลุมดำอยู่ในหัวใจ ทำให้เรารู้ตัวว่าไม่โอเค มันเหนื่อย แล้วเรารู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว จะทำอย่างไรดี เราตั้งคำถามกับตัวเองเรื่องคุณค่าของชีวิตว่ามันอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วแพรก็โชคดีมากที่แพรได้เริ่มเข้ามาศึกษาในเรื่องวัฒนธรรมไทย ได้เรียนรู้เรื่องผ้าไทย มันทำให้เรามีโอกาสได้เชื่อมต่อกับรากเหง้าของเราจริงๆ ว่าเราต้องภูมิใจในความเป็นไทย ทำให้แพรได้ทำงานกับชุมชน อย่างตอนที่เราลงพื้นที่ไปบุรีรัมย์ ไปเรียนรู้วิธีย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติจากดิน เราก็ขึ้นไปบนภูเขากัน ไปเก็บหินมาย้อมผ้า ระหว่างนั้นชาวบ้านก็จะแนะนำว่าเราเก็บได้เท่านี้นะ เวลาเก็บก็ต้องระวังรากไม้ ระหว่างขึ้นไปเก็บดิน ถ้าเห็นขยะเราก็เก็บลงมาด้วย เราก็ได้เก็บเห็ด เก็บหน่อไม้มาปรุงอาหาร มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ว่ากลุ่มคนพวกนี้เขาอยากรักษาวิถีแบบไทยและอยากรักษาธรรมชาติด้วย”
เธอยังบอกอีกว่านั่นเป็นประสบการณ์จุดเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงความคิดของเธอ และนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น นอกจากนี้เธอยังเน้นย้ำอีกว่าธรรมชาติในปัจจุบันเหลือน้อยมากจริงๆ แต่มันก็มีหลายๆ สิ่งที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน
แพรี่พาย: บางทีเราไม่ต้องเพอร์เฟกต์ว่าฉันต้องกิน Vegan 100% หรือฉันจะเป็นคนรักษ์โลก 100% คือเราก็ยังอยากสวยได้ ยังอยากแต่งหน้าได้ แต่มันก็มีหลายๆ อย่างที่เราสามารถทำได้และอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้โดยไม่เบียดเบียนกัน
จะเห็นว่าการที่ Yves Rocher เลือกแพรี่พายเป็นตัวแทนของสาวๆ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้คอนเซปต์ ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’ นั้น เป็นการเลือกถูกคนจริงๆ เพราะเธอเชื่อและลงมือทำเพื่อสิ่งแวดล้อมจริงๆ ไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่เธอค้นหาคุณค่าของตัวเองและเชื่อมต่อกับธรรมชาติมานับปี และจะทำต่อไป สาวๆ คนไหนที่อยากเริ่มต้นเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้ไม่ต้องลงทุนเดินเข้าป่าแบบแพรี่พายหรือนทก็ได้ เพราะในโอกาสที่ฉลอง 60 ปี Yves Rocher จัดโครงการ Plant for The Planet รณรงค์ปลูกต้นไม้ 100 ล้านต้นทั่วโลก เรามีส่วนร่วมได้ง่ายๆ หากซื้อผลิตภัณฑ์ I Love My Planet 1 ชิ้น จะได้ร่วมปลูกต้นไม้ให้โลก 1 ต้น พร้อมนำรายได้ส่วนหนึ่งบริจาคให้มูลนิธิ Yves Rocher Foundation เพื่อฟื้นฟูป่าทั่วโลก และป้องกันการเกิดโลกร้อนอีกด้วย โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวคิด ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้คอนเซปต์ ‘Act Beautiful สวยโลกไม่เสีย’ ที่มีระยะเวลาให้สาวไทยได้ร่วมรณรงค์รักษ์โลกไปด้วยกันตลอดทั้งปี 2020
ภาพ: Courtesy of Yves Rocher
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า