ยุทธพรชี้ เงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเป็นทางสองแพร่ง ‘เดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ดี’ ด้านนายกฯ ย้ำ มีวิกฤตเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องกู้ พร้อมน้อมรับทุกความเห็นต่าง

วันนี้ (15 พฤศจิกายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลว่าเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ดี เปรียบเหมือนสภาวะทางสองแพร่งสำหรับรัฐบาลพอสมควร เพราะถือเป็นนโยบายหลักที่ใช้ในการหาเสียง ถ้าเกิดถอยกระบวนการตั้งคำถามก็จะเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยเองก็ไม่สามารถล้มเลิกนโยบายนี้ได้

อีกทั้งต้องยอมรับว่าในช่วงของการข้ามขั้วทางการเมือง เครดิตและความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยก็เป็นปัญหาใหญ่ แต่เมื่อข้ามขั้วแล้วนโยบายและผลงานก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะถอยไม่ได้ในเรื่องนี้

โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดินหน้า มีกระบวนการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน

ขณะเดียวกันถ้าเดินหน้าก็จะต้องถูกกระบวนการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งมีคณะทำงานขอข้อมูลในหลายเรื่อง รวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปดูทั้งหมด หรือแม้การถูกวิจารณ์จากสังคมก็ถือมีส่วนสำคัญในการตรวจสอบเหมือนกัน รวมไปถึงข้อกฎหมายต่างๆ เช่น กฎหมายวินัยการเงินการคลัง เรื่องการเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

รศ.ดร.ยุทธพร ระบุอีกว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งคล้ายกับกฎหมายเงินสองล้านล้านบาทในสมัย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทุกอย่างถือเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของกฎหมายและทางการเมืองด้วย

เมื่อถามว่าหากสุดท้ายกฎหมายไม่ผ่านทั้งชั้นสภาหรือศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไร รศ.ดร.ยุทธพร ระบุว่า ปกติตามธรรมเนียม นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบ แม้ว่ากฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้ว่าจะต้องทำอย่างไรในกรณีกฎหมายสำคัญไม่ผ่าน แต่คงต้องแสดงความรับผิดชอบ

ประชาชน-พรรคเพื่อไทยกังวล หาก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทสะดุด

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 15 ชั่วโมง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมแผนสำรองหาก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทไม่ผ่านการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า

ไม่เพียงแต่เฉพาะพรรคเพื่อไทยอย่างเดียวที่กังวล แต่ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ประสบปัญหาสะสมมาโดยตลอดในเรื่องของ GDP ที่ไม่เติบโตมานาน ทุกคนมีความเป็นห่วงว่านโยบายนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วว่าประเทศไทยอยู่ในสภาพเศรษฐกิจวิกฤตและมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตถือเป็นนโยบายสำคัญที่เราจะผลักดันให้เกิดขึ้น และมั่นใจว่าจะมีการผลักดันให้เกิดขึ้น

ยันไม่มีอคติ น้อมรับทุกความเห็นต่าง

นายกรัฐมนตรีระบุว่า กรณีที่ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นว่าไม่ขัดขวางนโยบายแจกเงินดิจิทัล แต่หากรัฐบาลเดินหน้าต่อควรมีแผนเตรียมไว้นั้นไม่อยากจะบอกว่ามีแผนสำรองอย่างไร แต่เราทำงานโดยมีหลายมาตรการที่กระตุ้นเศรษฐกิจออกมา

“วันนี้โฟกัสเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่ผ่านมารัฐบาลแสดงจุดยืนชัดเจนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและมีขั้นตอนชัดเจน อีกทั้งต้องคอยฟังทางคณะกรรมการกฤษฎีกาและขออนุมัติจากรัฐสภาที่ชัดเจนออกมาด้วย” เศรษฐากล่าว

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลหวังว่าความเห็นที่พรรคได้สะท้อนออกมาที่มีหลายเรื่องเห็นต่างอยากให้รัฐบาลมองอย่างไม่มีอคติ นายกฯ กล่าวว่าไม่มีอคติอยู่แล้ว ยืนยันว่าน้อมรับทุกคำแนะนำ หากเกิดอะไรขึ้นเราแก้ไขปรับปรุงได้ และเชื่อมั่นว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมีความชัดเจนในการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ต้องขอบคุณความเห็นจากพรรคก้าวไกล