‘หยวนต้า’ เร่งหาต้นตอ Fake News แอบอ้างทำบทวิเคราะห์สั่งขายหุ้นกลุ่ม EA ทำราคาดิ่งหนัก มาร์เก็ตแคปวูบ 4.3 หมื่นล้านบาท

วานนี้ (5 เมษายน) หุ้น บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA และหุ้นในกลุ่มคือ บมจ.เน็กซ์ พอยท์ หรือ NEX และ บล.บียอนด์ หรือ BYD ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีวอลุ่มการซื้อขายหนาแน่นติดกลุ่ม 10 อันดับแรกทั้ง 3 หลักทรัพย์ นำโดย

อันดับ 1 EA ปิดที่ 94.25 บาท -5.75 บาท หรือ -5.75% มูลค่าการซื้อขาย 4,613.14 ล้านบาท

อันดับ 4 NEX ปิดที่ 19.10 บาท -0.90 บาท หรือ -4.50% มูลค่าการซื้อขาย 2,005.39 ล้านบาท

อันดับ 9 BYD ปิดที่ 13.80 บาท -0.30 บาท หรือ -2.13% มูลค่าการซื้อขาย 1,243.42 ล้านบาท

หากเปรียบเทียบมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ของ 3 หลักทรัพย์ข้างต้นระหว่างวันที่ 4 และ 5 เมษายน พบว่า Market Cap. ของกลุ่ม EA ลดลงไป 43,326.90 ล้านบาท

สาเหตุการปรับลดลง ส่วนหนึ่งมาจาก ‘ข่าวปลอม’ (Fake News) ซึ่งมาในรูปของบทวิเคราะห์โดยแอบอ้างชื่อ บล.หยวนต้า โดยข้อความดังกล่าวถูกส่งต่อๆ กันผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ทั้งโปรแกรม LINE, OpenChat และทาง Facebook ซึ่งข้อความที่ส่งต่อกันระบุว่า

“EA มีประเด็นความไม่โปร่งใสการบริหารงานของผู้บริหารระดับสูง ทางสื่อโซเชียล ซึ่งยังไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่แหล่งข่าวเคยเป็นคนใกล้ชิด ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีผลต่อการถือหุ้นของนักลงทุน สถาบันและต่างชาติ เพื่อลดความเสี่ยง แนะนำเลี่ยงการลงทุนไปก่อน

หลีกเลี่ยงหุ้นบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) และหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น NEX, BYD

#Yuanta Research”

หลังจากที่ข้อความนี้ถูกปล่อยออกมา ก็ทำให้ราคาหุ้นของทั้ง 3 บริษัทปรับตัวลดลงจากแรงขายของผู้ลงทุน

แหล่งข่าวในวงการตลาดทุนรายหนึ่งกล่าวว่า กระแสข่าวลบเกี่ยวกับหุ้น EA เริ่มเห็นในช่วงเที่ยง และมีการส่งต่อกันไปในวงกว้างผ่านช่องทางสื่อโซเชียลที่หลากหลาย ซึ่งน่าเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ราคาหุ้น EA และหุ้นในกลุ่มปรับตัวลดลงอย่างมาก

แหล่งข่าวระบุว่า ข้อความที่ถูกส่งต่อในสื่อโซเชียลนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ที่จะทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นตื่นตกใจ โดยเป็นประเด็นที่เคยถูกนำมากดดันความเคลื่อนไหวของหุ้น EA ในอดีตมาแล้ว จึงเชื่อว่านักลงทุนจะรู้จักคัดกรองและเลือกรับข้อมูลข่าวสารที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้นพรุ่งนี้ (7 เมษายน) แม้พื้นฐานหุ้นไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน แต่ประเมินว่าหุ้น EA อาจจะอยู่ในภาวะ Overhang เนื่องจากนักลงทุนสถาบันน่าจะชะลอการลงทุนจนกว่ากระแสข่าวดังกล่าวจะจางหายไป

‘หยวนต้า’ จ่อเอาผิดผู้แอบอ้างชื่อปล่อยข่าวเท็จ

ทางด้าน ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัย บล.หยวนต้าถูกทำให้เข้าใจว่าเป็นผู้เเผยแพร่มุมมองและคำแนะนำการลงทุนหุ้น EA ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

โดยส่วนตัวได้เห็นข้อความอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดครั้งนี้ประมาณ 16.00 น. เพราะมีลูกค้าแจ้งมาว่า ได้รับข้อความดังกล่าวและลงท้ายด้วย #Yuanta Research ซึ่งลูกค้าเชื่อมั่นว่าไม่ใช่ข้อความจากฝ่ายวิจัยหยวนต้าแน่นอน โดยขณะนี้ฝ่ายวิจัย และฝ่ายบริหารอยู่ระหว่างการดำเนินการหาต้นตอผู้เผยแพร่ข้อมูล หากพบก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะถือว่าจงใจทำให้ บล.หยวนต้าเสื่อมเสียชื่อเสียง

ปัจจุบัน บล.หยวนต้ามีช่องทางการสื่อสารเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนผ่านช่องทาง ดังนี้

Website: www.yuanta.co.th
Facebook: yuanta securities thailand
Telegram: yuantathai
IG: yuantathai
Twitter: @yuantathai
YouTube: หยวนต้า YUANTAthai
E-mail: [email protected]

โดยช่องทางดังที่กล่าว เป็นการสื่อสารข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงที่มีความน่าเชื่อถือ

สำหรับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับนอกเหนือจากช่องทางการสื่อสารข้างต้นแล้ว บล.หยวนต้าไม่ขอรับรองความถูกต้อง หรือยืนยันข้อมูลที่ปรากฏนอกเหนือจากการสื่อสารผ่านช่องทางที่กล่าวมา

ภาดลกล่าวเพิ่มว่า ฝ่ายวิจัยมีการแจ้งลูกค้าอยู่เป็นระยะในเรื่องช่องทางสื่อสารที่เป็นทางการ ทำให้นักลงทุนและลูกค้าที่ติดตาม บล.หยวนต้ามาตลอดจะทราบดีถึงรูปแบบและลักษณะข้อความของการสื่อสาร

“ฝ่ายวิจัยได้ทราบเรื่องจากลูกค้านักลงทุนที่ติดตามเป็นประจำ หลังจากทราบเรื่องถูกแอบอ้างชื่อแล้วก็ได้แจ้งช่องทางสื่อสารอย่างเป็นทางการของเราให้นักลงทุนทราบผ่านทาง Telegram ทันที ส่วนทางบริษัท EA ไม่ได้มีการติดต่อมาที่หยวนต้า เชื่อว่าทาง EA ก็น่าจะทราบว่าข้อความนั้นเป็นเท็จ และชื่อหยวนต้าถูกแอบอ้างนำไปใช้ ขณะนี้ทางหยวนต้าอยู่ระหว่างสืบหาผู้กระทำผิดเพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมาย” ภาดลกล่าว

เขากล่าวเพิ่มว่า กรณีราคาหุ้น EA เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาที่ปรับลดลงอย่างหนักนั้น นอกเหนือจากสาเหตุเรื่องกระแสข่าวอันเป็นเท็จแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องวันหยุดระหว่างสัปดาห์ ที่อาจะทำให้นักลงทุนขายทำกำไรและลดความเสี่ยง รวมถึงแรงขายทำกำไรจากช่วงราคาขาลงในตลาด DW และ Futures ด้วย

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH