วานนี้ (29 กันยายน) YouTube ผู้ให้บริการเว็บไซต์เผยแพร่วิดีโอชื่อดัง ประกาศนโยบายใหม่ เรื่อง การจัดการเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีน ผ่าน Blog ของทางบริษัท โดยเตรียมลบเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีนที่ผ่านการรับรองทุกชนิด ซึ่งครอบคลุมถึงวัคซีนที่ผ่านการรับรองมานานแล้ว เช่น วัคซีนป้องกันโรคหัดอีสุกอีใส หรือไวรัสตับอักเสบบี ไม่เฉพาะวัคซีนโควิด
YouTube ยืนยันว่า วิดีโอที่มีเนื้อหาไม่ถูกต้อง เช่น ระบุว่าวัคซีนที่ผ่านการรับรองแล้วเป็นสาเหตุให้เกิดโรคออทิสติก มะเร็ง หรือภาวะมีบุตรยาก จะถูกลบออกจากแพลตฟอร์มของบริษัท
นโยบายใหม่ของ YouTube ยังรวมถึงการลบช่องของอินฟลูเอนเซอร์หรือนักเคลื่อนไหวต่อต้านวัคซีนที่เป็นที่รู้จัก เช่น ดร.โจเซฟ เมอร์โคลา แพทย์โรคกระดูกชาวอเมริกันที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ทนายความสิ่งแวดล้อมชาวอเมริกัน
“เรากำลังขยายนโยบายของเราเรื่องการให้ข้อมูลทางการแพทย์ผิดๆ บน YouTube ด้วยแนวทางใหม่เกี่ยวกับการให้วัคซีนในปัจจุบัน ซึ่งผ่านการรับรองและยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพโดยหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นและองค์การอนามัยโลก” ประกาศของ YouTube ระบุ
ที่ผ่านมา YouTube ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Google ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการที่ไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อต่อต้านการเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพผิดๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน
ซึ่งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่า มีส่วนรับผิดชอบอย่างมากต่อความสงสัยและไม่มั่นใจของประชาชนในการเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นผลจากการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ โดยไบเดนเรียกร้องให้แพลตฟอร์มเหล่านี้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ YouTube เผยว่า มีวิดีโอกว่า 130,000 รายการ ถูกลบออกจากแพลตฟอร์มตั้งแต่ปีที่แล้ว ในช่วงที่มีการดำเนินการแบนเนื้อหาที่เผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนโควิด
ความเคลื่อนไหวของ YouTube ครั้งนี้ยังคล้ายกับแนวทางของ Facebook ที่ประกาศไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า จะแบนการเผยแพร่เนื้อหาและข้อมูลผิดๆ ว่าวัคซีนไม่มีประสิทธิภาพหรือก่อให้เกิดโรคร้ายแรง
ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคม Twitter ยังประกาศว่า ผู้ใช้งานที่เผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับวัคซีนหลายครั้งจะถูกแบนจากแพลตฟอร์มของบริษัท
อย่างไรก็ตาม YouTube ยืนยันว่า วิดีโอที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายวัคซีน การทดลองวัคซีนใหม่ และวิดีโอประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสำเร็จหรือความล้มเหลวของวัคซีน จะยังได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ในเว็บไซต์
ภาพ: Photo by Aytac Unal / Anadolu Agency / Getty Images
อ้างอิง: