YLG (วายแอลจี) เผย ราคาทองคำไทยขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำ เพิ่มขึ้น 33.73% จากต้นปี ตามเป้าหมายที่เคยให้ไว้ โดยได้รับแรงหนุน จากราคาทองคำโลกที่ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง นับจากต้นปี ราคาปรับขึ้นมาแล้ว 1,140.72 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 43.48%
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า มี 2 ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้ราคาทองคำไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้แก่
1. ราคาทองคำโลก เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่
โดยนับจากต้นปี ราคาทองคำโลกปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 1,130.64 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือเพิ่มขึ้น 43.48% ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในรอบ 46 ปี
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจาก ประเด็นความกังวลเกี่ยวกับการชัตดาวน์ (ปิดตัวชั่วคราว) ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หลังจากในวันศุกร์วุฒิสภาได้ปฏิเสธร่างงบประมาณระยะสั้นที่สภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติมา ซึ่งหากร่างงบประมาณไม่ได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้รัฐบาลเสี่ยงถูกชัตดาวน์
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ คือในการประชุมเดือน ต.ค. และ ธ.ค.
รวมถึงปัจจัยบวกจากกองทุน SPDR เข้าถือทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่ากองทุนถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 18.9 ตัน ก่อนจะซื้อเพิ่มในวันจันทร์ 6.01 ตัน ทำให้การถือครองขึ้นสู่ระดับ 1,000.57 ตัน สูงสุดนับตั้งแต่ เดือน ส.ค. 2565 และยังมีปัจจัยความต้องการทองคำ ในอินเดีย ที่แข็งแกร่งตั้งแต่กลางเดือน พ.ย. ปีที่ผ่านมา จนทำให้อินเดียเป็นผู้บริโภค ทองคำเป็นอันดับ 2 ของโลก
2. เงินบาทอ่อนค่าจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ฟื้นตัวขึ้น
จากระดับต่ำสุดที่ 95.804 ประกอบกับมีแรงขายหุ้นและพันธบัตรจากความกังวลของต่างชาติในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้มีกระแสเงินไหลออกระยะสั้น
ทั้งนี้ YLG ยังคงเป้าหมายราคาทองคำในประเทศไว้ที่ 57,000 บาท หากราคา ทะลุเป้าหมายแรก มีโอกาสที่จะทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 60,000 บาทต่อบาททองคำ แต่หากเงินบาทแข็งค่า จากระดับปัจจุบันที่ 31.83 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ก็จะส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่จะไปทดสอบ เป้าหมายถัดไปลดลง ดังนั้นการเคลื่อนไหวของทองคำ ในประเทศขึ้นอยู่กับค่าเงินบาท อย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำไม่ผ่านเป้าหมายแรกที่ 57,000 บาทต่อบาททองคำ แนะนำแบ่งขายทำกำไรบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมด และแนะนำให้ซื้อกลับ เมื่อย่อตัวหากราคาไม่หลุดแนวรับที่ 55,000 – 50,000 บาทต่อบาททองคำ