วันนี้ (18 ตุลาคม) นพ.อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยะลา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โรคโควิด ข้อมูลจังหวัดยะลา ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2564 จำนวนผู้ป่วยสะสม 34,256 ราย รักษาหายสะสม 26,102 ราย ผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 231 ราย พบการระบาดมากขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยเฉลี่ยรายวันจาก 350 รายต่อวัน เพิ่มขึ้น 650 รายต่อวัน
โดยในเขตอำเภอเมืองยะลาพบอัตราป่วยเพิ่มมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อร่วมบ้าน ร่วมสถานที่ทำงาน มากถึง 50% รองลงมาจากการสัมผัสร่วมชุมชนตามแหล่งที่พบการรวมกลุ่ม เช่น ตลาด ร้านอาหาร ร้านน้ำชา งานเลี้ยง งานแต่งงาน งานศพ
โดยแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของจังหวัดยะลาจากการคาดการณ์ระดับจังหวัด พบว่า อัตราการติดเชื้อของประชาชนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันยังพบการระบาดในพื้นที่จำนวนมากขึ้น ยิ่งมีมาตรการผ่อนคลายที่ประชาชนสามารถใช้ชีวิตปกติ และความครอบคลุมของวัคซีนไม่เพิ่มขึ้นก็จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้น
ดังนั้น มาตรการเร่งด่วนที่ได้ดำเนินการในขณะนี้คือ การตรวจ ATK เชิงรุกทุกวันและขยายการตรวจไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง กรณีผู้ป่วยที่พบเชื้อเข้าข่ายการสอบสวนโรคจะส่งเข้าศูนย์สังเกตอาการ (CI) พร้อมจัดยาฟาวิพิราเวียร์ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นของอาการ เพื่อลดอาการผู้ป่วยที่รุนแรงและลดการเสียชีวิต พร้อมขยายโรงพยาบาลสนามในการรองรับผู้ป่วยโควิดให้เข้าถึงระบบการรักษาได้เร็วขึ้น ภายใต้การดูแลของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ท่ามกลางภาระงานที่หนัก เสี่ยงต่อการป่วยติดเชื้อ และคนที่ไม่เพียงพอต่อการดำเนินงาน ซึ่งจำเป็นต้องหาอัตรากำลังทดแทนด้วยการจ้างงานให้เพียงพอต่อการดูแลรักษา ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด
นอกจากนี้ จังหวัดยะลาได้เปิดสายด่วน ‘โควิด-19 จังหวัดยะลา’ โทร. 1567 และ 4 หมายเลข โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา เพื่อตอบคำถามประสานงานโรคโควิด ระหว่างเวลา 06.00-21.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
นพ.อินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้มงวดตามมาตรการป้องกันตัวเองสูงสุด (Universal Prevention) อย่างจริงจังและต่อเนื่อง กับทุกคน ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อป้องกันการติดและการแพร่กระจายของเชื้อ ควบคู่กับการเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งได้รับการสนับสนุนวัคซีน Pfizer จากกระทรวงสาธารณสุข จึงขอเชิญชวนผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปในเขตอำเภอเมืองยะลา ไปขอรับการฉีดวัคซีนตามวัน-เวลาที่นัดหมาย ทั้งนี้ จะช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิตลงได้ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ พร้อมที่จะปรับตัวในการรับมือกับสถานการณ์ โดยช่วยเหลือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จะทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตโควิดไปด้วยกัน