ย่างเข้าสู่ช่วงปลายปี ราวเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่นิยมอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการชมใบไม้เปลี่ยนสี คือ ‘เทศกาลชมไฟ’ หรือเรียกว่า ยาเคะอิ (Yakei) นักท่องเที่ยวสามารถชมแสงไฟได้ตามสถานที่ต่างๆ มีทั้งวิวเมือง ซึ่งมองจากบนยอดเขา หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมแสงไฟในยามค่ำคืน ไปจนถึงนิทรรศการศิลปะที่นำเอาศิลปินมากมีฝีมือมาจัดแสดงแสงสีเสียงตามสถานที่สำคัญประจำเมือง  

ยาเคะอิ กับ วิกฤตฟองสบู่แตก

     ยาเคะอิ เป็นวัฒนธรรมการชมไฟของญี่ปุ่นที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ได้รับความนิยมมากในยุคฟองสบู่แตก ช่วงปี 1990 เนื่องจากผลพวงจากการขยายโครงสร้างในประเทศช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้สถานที่ต่างๆ ในเมืองเต็มไปด้วยตึกระฟ้า สวนสนุก และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

     ในช่วงเวลานั้น ด้านเศรษฐกิจ รัฐสนับสนุนภาคเอกชนผลิตสินค้าส่งออก จนลืมนึกถึงคนในประเทศ คนญี่ปุ่นที่มีฐานะมั่งคั่งก็นิยมบริโภคสินค้าจากทางยุโรป ใช้จ่ายเงินออกนอกประเทศจำนวนมาก ส่วนชนชั้นกลางที่กำลังไม่ถึง เริ่มรู้สึกว่าสินค้าภายในประเทศมีราคาแพง คนญี่ปุ่นเป็นชาติทำงานหนักและอดออม จากบทเรียนในยุคสงครามทำให้คนเริ่มประหยัด เมื่อประหยัดและอดออม ความต้องการในการใช้จ่ายก็เริ่มน้อยลง เมื่ออุปสงค์น้อย อุปทานก็หดหาย นักลงทุนที่เคยเข้ามาลงทุนในประเทศก็ถอนตัวออกห่าง ประกอบกับธุรกิจการส่งออกของประเทศจีนเริ่มรุ่งโรจน์ ผลิตได้มากและราคาถูก ประเทศญี่ปุ่นจึงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเคือง และเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ในที่สุด

     ตามสถิติของรัฐบาลญี่ปุ่น กิจกรรมที่คนญี่ปุ่นนิยมทำยามว่างมากที่สุดคือการรับประทานอาหารนอกบ้านและการท่องเที่ยว การตีกรอบยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจึงรวมไปถึงการสนับสนุนให้คนญี่ปุ่นหันมาใช้ของในประเทศและเที่ยวในประเทศมากขึ้น ยาเคะอิจึงถูกสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน แหล่งท่องเที่ยวก็หายาก ตั้งแต่นั้นมาประเทศญี่ปุ่นก็มีเทศกาลการชมแสงไฟในช่วงสิ้นปี และมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถหาชมได้ตลอดทั้งปี

5 สถานที่ชมไฟยอดฮิตแดนอาทิตย์อุทัย  

1. จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)

     วิวกลางคืนของจังหวัดนางาซากินั้นได้รับการยกย่องว่าสวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกเทียบเท่ากับฮ่องกงและโมนาโก ทั้งยังได้รับฉายาว่า ‘วิวสิบล้านดอลลาร์’ เนื่องจากแสงไฟจากบ้านเรือนต่างๆ ที่อยู่บนภูมิประเทศลาดเอียงไล่ระดับจากภูเขาลงสู่ท่าเรือทำให้เกิดมุมมองที่มีมิติสวยงาม โดยจุดชมวิวที่สวยที่สุดอยู่บน ‘เขาอินาสะ’ ยอดเขาสูง 333 เมตร ห่างจากเมืองไปไม่กี่กิโลเมตร การเข้าชมสามารถทำได้ 2 วิธีคือนั่งกระเช้าและรสบัส

2. เมืองเมียวโกะ จังหวัดนีงาตะ (Myoko, Niigata)

     ‘Myoko Happiness Illumination’ เป็นงานจัดแสดงแสงไฟที่นิยมที่สุดในเมืองเมียวโกะ จังหวัดนีงาตะ จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยใช้พื้นที่สนามกอล์ฟทั้งหมดของ APA Resort Joetsu Myoko ลักษณะเด่นของยาเคะอิของที่นี่คือ การใช้หลอดไฟ LED กว่า 1,600,000 หลอด เพื่อแสดงเรื่องราวของ ‘ตำนานมังกร’ ซึ่งเป็นเรื่องราวตำนานของเมืองเมียวโกะ จนได้รับการรับรองจาก กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ในปี 2015 ว่าเป็นภาพบนพื้นดินที่สร้างด้วยหลอดไฟ LED จำนวนมากที่สุดในโลก

3. เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด (Sapporo, Hokkaido)

     ซัปโปโรเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 เมืองที่มีวิวไฟกลางคืนสวยที่สุดในญี่ปุ่น จุดชมยาเคะอิที่แนะนำมีอยู่หลายแห่ง จุดแรกอยู่บนยอดเขาโมอิวะ บนระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 531 เมตร โดยสามารถมองได้จากหอชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นได้ 360 องศา และบริเวณร้านอาหารฝรั่งเศสนาม The Jewels

     อีกหนึ่งจุดห้ามพลาด คือ ‘หอชมวิวเมือง ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์’ ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของสวนโอโดริ กลางเมืองซัปโปโร โดยมีความสูงจากพื้นดิน 90 เมตรสามารถชมวิวไฟกลางคืนของสวนโอโดริได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในฤดูหนาวนั้นจะมีงานเทศกาล ‘ซัปโปโร ไวท์ อิลลูมิเนชัน’ และ ‘เทศกาลหิมะซัปโปโร’ ซึ่งสวยงามมาก

4. เมืองฟูจิซาวะ จังหวัดคานากาวะ (Fujisawa, Kanagawa)

     ฟูจิซาวะ เป็นเมืองขนาดกลางในจังหวัดคานากาวะ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและกิจกรรมการพักผ่อนริมทะเล โดยอยู่ถัดจากคามาคุระ ซึ่งโด่งดังเรื่องประวัติศาสตร์และซามูไร เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น จุดชมไฟที่สวยที่สุดอยู่บริเวณ ‘ประภาคารเอโนะชิมะซีแคนเดิล’ จัดไฟประดับแต่ตัวอาคารจนถึงบริเวณโดยรอบ ความงดงามต้องตานักชมจนถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของประเทศ และถูกจัดให้เป็น 1 ใน 3 อิลลูมิเนชันที่สวยที่สุดแห่งภูมิภาคคันโต จนได้รับสมญานามว่า ‘อัญมนีแห่งโชนัน’

5. จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

     ชิซุโอกะ เป็นจังหวัดทางภาคกลางที่ตั้งอยู่ระหว่างโตเกียวและนาโกย่า มีชื่อเสียงเรื่องออนเซนและชาเขียวอร่อยระดับประเทศ จุดชมยาเคะอิที่สวยที่สุดของชิซุโอกะมีชื่อว่า ‘แกรนด์อิลลูมิ’ แหล่งดูไฟสวยบริเวณ ‘สวนสาธารณะอิซุกุรันปารุ’ ที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 1 สำหรับการจัดแสดงยาเคะอิขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จากเว็บไซต์ Walkerplus ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข้อมูลยอดนิยมสำหรับการท่องเที่ยวและอีเวนต์

     จุดเด่นของแกรนด์อิลลูมิคือ งานจัดแสดงไฟที่ผู้ชมสามารถสนุกไปกับกิจกรรมอันหลากหลายได้ เช่น สามารถโหนสลิงและมองเห็นอิลลูมิเนชันจากมุมด้านบน หรือไถตัวจาก ‘ไนต์ เรนโบว์’ สไลเดอร์ยาวแสนสนุกที่ต้องรอคิวนานถึง 2 ชั่วโมง และแต่ละฤดูกาลยังปรับเปลี่ยนการจัดแสดงแสงสีเสียงให้แตกต่างกันอีกด้วย โดยซีซันใหม่จะเปิดให้เข้าชมในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ฉะนั้น ใครมีแพลนไปเที่ยวละแวกนั้นอยู่แล้ว แนะนำให้แวะไป เพราะสวยมากจริงๆ