สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางเยือนเวียดนามวันนี้ (12 ธันวาคม) ซึ่งนับเป็นการเยือนเวียดนามครั้งแรกในรอบ 6 ปีของผู้นำจีน และเกิดขึ้นหลังจากที่ โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา เยือนกรุงฮานอยเมื่อราว 3 เดือนก่อน โดยสีจิ้นผิงหวังจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันกันแผ่ขยายอิทธิพลกับสหรัฐฯ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย รวมถึงอาเซียนด้วย
แม้จีนและเวียดนามจะมีระบอบการเมืองการปกครองที่คล้ายคลึงกัน และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันในทางเศรษฐกิจและการค้า แต่ทั้งสองประเทศก็เคยขัดแย้งกันมาอย่างยาวนานเมื่อครั้งอดีต ทั้งยังเป็นคู่พิพาทที่ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนทับซ้อนในทะเลจีนใต้อีกด้วย
สีจิ้นผิงแสดงความเห็นในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเวียดนามก่อนการเดินทางเยือนครั้งนี้ว่า “อนาคตของเอเชียไม่ได้อยู่ในมือของใครนอกจากมือของชาวเอเชียเอง ชุมชนของทั้งสองประเทศที่ต่างมีอนาคตร่วมกันจะมีความสำคัญอย่างมากในเชิงยุทธศาสตร์ และขณะเดียวกันก็เป็นการส่งสัญญาณเตือนเพื่อไม่ให้มีลัทธิมหาอำนาจเกิดขึ้นมาอีกในประชาคมโลก”
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการพบปะหารือกันของผู้นำจีนและเวียดนามในครั้งนี้จะปิดฉากลงด้วยความร่วมมือหลายฉบับ ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนที่มีส่วนช่วยยกระดับการเชื่อมโยงระหว่างจีนกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน พร้อมส่งเสริมให้สินค้าเวียดนามส่งออกไปขายที่จีนได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงผลักดันให้เวียดนามก้าวเข้ามาเป็นส่วนขยายของโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าเงินทุนและการสนับสนุนจากจีนจะมีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจของเวียดนามเป็นอย่างมาก แต่ชาวเวียดนามที่มีความรู้สึกต่อต้านจีนก็ยังคงมีอยู่มากในสังคม ซึ่งพวกเขาต่างมองว่าทางการเวียดนามขยับเข้าใกล้ชิดกับทางการจีนมากจนเกินไป หวั่นเกิดผลกระทบอะไรบางอย่างตามมา
แฟ้มภาพ: Carlos Barria / Reuters
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/chinas-xi-visits-vietnam-after-biden-seeks-boost-ties-2023-12-12/
- https://www.france24.com/en/live-news/20231212-china-s-xi-visits-vietnam-in-bid-to-counter-us
- https://www.aljazeera.com/news/2023/12/12/chinas-xi-on-visit-to-vietnam-months-after-hanoi-strengthened-ties-with-us