นี่คือภาพรวมการกุมอำนาจของสีจิ้นผิง ผู้นำสูงสุดรุ่นที่ 5 ของประเทศจีน โดยสีจิ้นผิงก้าวขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2012 กุมบังเหียนพรรคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโครงสร้างการเมืองของจีน นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐจีน เมื่อปี 1949 มีบทบาทนำในคณะกรรมการกรมการเมือง หรือ โปลิตบูโร (Politburo) รวมถึงคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมือง (Politburo Standing Committee: PSC) ที่มีสมาชิกเพียง 7 คนเท่านั้น และทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศทั้งสิ้น โดยมีสีจิ้นผิงเป็นเบอร์ 1 ที่มีอำนาจสูงสุด
สีจิ้นผิงยังครองอำนาจนำในการบริหารประเทศ นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีจีน เป็นผู้นำสูงสุดของรัฐบาลจีน และเป็นผู้แทนของประเทศจีนในประชาคมโลก สีจิ้นผิงก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งนี้ตั้งแต่ปี 2013 และคาดว่าเขาจะได้รับมติรับรองจากสภาประชาชนจีน หรือที่ถูกตะวันตกขนานนามว่า ‘สภาตรายาง’ ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนสมัยที่ 3 ในเดือนมีนาคม ปี 2023
นอกจากนี้ สีจิ้นผิงยังนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง (Central Military Commission) กุมอำนาจนำเหนือกองทัพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) ที่ประกอบไปด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองกำลังจรวด และกองกำลังสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ รวมถึงมีอำนาจควบคุมกองกำลังเสริม (Non-PLA) อย่างกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชน (PAP) และกองกำลังสำรองอื่นๆ อีกด้วย นับเป็นผู้นำที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ และเป็นผู้นำสูงสุดของจีนที่มีอำนาจมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองจีน นับตั้งแต่ยุคสมัยของเหมาเจ๋อตุง
ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ
อ้างอิง: