ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน พบปะหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ วานนี้ (15 พฤศจิกายน) ที่ชานนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเป็นการเจอกันแบบซึ่งหน้าครั้งแรกในรอบปีของ 2 ผู้นำมหาอำนาจ และเป็นการเยือนสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบ 6 ปีของสี เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ APEC
ทั้งสองผู้นำได้พูดคุยกันในหลายประเด็นความร่วมมือ ทั้งด้านการทหาร ปัญหายาเสพติด และ AI ท่ามกลางการจับตามองถึงท่าทีและโอกาสในการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งไบเดนชี้ว่าการพูดคุยที่เกิดขึ้นถือเป็น ‘ความคืบหน้าอย่างแท้จริง’ สำหรับความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ
การหารือทวิภาคีระหว่างสีและไบเดนมีขึ้นนานกว่า 4 ชั่วโมงที่คฤหาสน์ฟิโลลี (Filoli Estate) ห่างจากนครซานฟรานซิสโกไปทางใต้ราว 48 กิโลเมตร ซึ่งทั้งสองเห็นพ้องที่จะฟื้นช่องทางการสื่อสารทางทหารระดับสูงระหว่างกัน หลังจากที่ตัดขาดไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2022 เพื่อตอบโต้ต่อการเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ชี้ว่าการสื่อสารทางทหารระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศยิ่งเป็นสิ่งสำคัญ หลังจากเกิดกรณีบอลลูนสอดแนมของจีนลอบเข้าไปในน่านฟ้าของสหรัฐฯ
สียังสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายมีกลไกที่จะจัดการความผิดพลาดในการคำนวณทางทหารที่มีแนวโน้มเกิดขึ้น และเห็นด้วยกับไบเดนที่เสนอให้มีเวทีพูดคุยทางทหารระหว่างทั้งสองฝ่าย เพื่อนำเสนอข้อกังวลทางทหารระหว่างกัน
ขณะเดียวกันผู้นำจีนยังตอบรับความร่วมมือในนโยบายต่อต้านยาเสพติดกับสหรัฐฯ ด้วยการตกลงที่จะติดตามดำเนินการกับบริษัทผลิตสารเคมีตั้งต้นที่ใช้ผลิตเฟนทานิล (Fentanyl) ยาเสพติดร้ายแรงที่กำลังจุดชนวนวิกฤตยาเสพติดในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สองผู้นำยังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นไต้หวัน ซึ่งสีแสดงท่าทีชัดเจนว่า ข้อกังวลเกี่ยวกับไต้หวันถือเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดและอันตรายที่สุดในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน พร้อมยืนยันว่าจีนให้ความสำคัญกับการรวมประเทศอย่างสันติ และยังไม่มีแผนปฏิบัติการทางทหารต่อไต้หวันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ได้กำหนดเงื่อนไขที่สามารถใช้กำลังได้ ซึ่งไบเดนขอให้จีนเคารพกระบวนการเลือกตั้งของไต้หวันที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า และย้ำจุดยืนของสหรัฐฯ คือการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
ขณะที่ไบเดนยังกล่าวกับสีว่า ทั้งสหรัฐฯ และจีนต้องรับประกันว่าการแข่งขันระหว่างกัน ‘จะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง’ และจัดการความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ‘อย่างมีความรับผิดชอบ’ และชี้ว่าการรับมือต่อประเด็นท้าทายต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ AI และการต่อต้านยาเสพติดนั้นต้องการความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และจีน
ภายหลังการหารือ ไบเดนได้โพสต์ข้อความทางโซเชียลมีเดียว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเขาจะต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ระหว่าง ‘ผู้นำสู่ผู้นำ’ และยืนยันว่าการพูดคุยที่เกิดขึ้นนั้นมีความก้าวหน้าอย่างแท้จริง
“มีความท้าทายที่สำคัญระดับโลกที่ต้องอาศัยความเป็นผู้นำร่วมกัน และวันนี้เราก็มีความก้าวหน้าอย่างแท้จริง”
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รายหนึ่งชี้ว่า การพูดคุยระหว่างสีและไบเดนนั้น เป็นไปอย่าง ‘ตรงไปตรงมาอย่างมาก’ และมีการพูดคุยกันไปมามากกว่าการเจอกันล่าสุดในการประชุม G20 ที่บาหลีเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะที่สียังแสดงความกังวลเกี่ยวกับวาทกรรมภายในสหรัฐฯ เกี่ยวกับจีน และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ‘ไม่วางแผนปราบปรามหรือควบคุมจีน’
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างพูดคุยไบเดนยังได้กล่าวอวยพรวันเกิดแก่เผิงลี่หยวน ภรรยาของสีจิ้นผิงด้วย ซึ่งผู้นำจีนได้แสดงความขอบคุณ โดยถือเป็นท่าทีที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดของไบเดนและสี ที่มีมายาวนาน นับตั้งแต่ที่ไบเดนดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
แต่ถึงกระนั้น ทั้งสองผู้นำไม่มีการออกแถลงการณ์หรือปฏิญญาความร่วมมือใดๆ ระหว่างกัน โดยไบเดนเตรียมแถลงข่าวแยกหลังจากนี้
ภาพ: Kevin Lamarque / Reuters
อ้างอิง: