ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 15 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 สิงหาคมนี้ ณ เมืองโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ นับเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งที่ 2 ของสีจิ้นผิงในปีนี้
การเดินเยือนต่างประเทศครั้งแรกของสีจิ้นผิงเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังจากที่เขาตัดสินใจเยือนกรุงมอสโก เพื่อพบกับเพื่อนรักอย่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำทั้งสองประเทศต่างยืนยันในจุดยืนทางยุทธศาสตร์ของตนที่จะร่วมมือกันต่อต้านสหรัฐอเมริกา และผลักดันระเบียบโลกใหม่ที่ไม่ได้ถูกครอบงำโดยตะวันตกอีกต่อไป
โดยผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS เกือบทั้งหมดเดินทางไปร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วยตนเอง ยกเว้นปูตินที่ส่ง เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ให้เดินทางเข้าร่วมแทน ขณะที่ตัวเขาจะเข้าร่วมการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านั้น เนื่องจากขณะนี้ปูตินถูกออกหมายจับระหว่างประเทศในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน
ทางด้าน สตีฟ ซัง ผู้อำนวยการสถาบัน SOAS China ประจำมหาวิทยาลัยลอนดอน ระบุว่า “สีจิ้นผิงไม่ได้กำลังพยายามที่จะแข่งขันกับสหรัฐฯ ในระเบียบระหว่างประเทศเสรีนิยมที่ถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ เป้าหมายระยะยาวของสีจิ้นผิงคือการเปลี่ยนระเบียบโลกให้เป็นแบบที่มีจีนเป็นศูนย์กลาง และเพื่อสนับสนุนความทะเยอทะยานนั้น จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จีนจะหันไปมีส่วนร่วมกับบรรดาประเทศซีกโลกใต้ (Global South) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเผด็จการอำนาจนิยมในเชิงโครงสร้างทางการเมือง มากกว่าที่จะร่วมมือกับประเทศประชาธิปไตยในโลกตะวันตก”
การเดินทางเยือนแอฟริกาใต้ของสีจิ้นผิงในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้เปิดบ้านพักที่แคมป์เดวิด รัฐแมริแลนด์ ต้อนรับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดียุนซอกยอลของเกาหลีใต้ ในการประชุมไตรภาคีครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้นำทั้งสามประเทศต่างเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันต่อต้านพฤติกรรมที่ก้าวร้าวของจีนและป้องปรามการแผ่ขยายอำนาจของจีน โดยเฉพาะในพื้นที่แถบเอเชีย
สีจิ้นผิงเดินทางเข้าร่วมการประชุม BRICS ท่ามกลางปัญหารุมเร้ามากมายที่กำลังเกิดขึ้นภายในประเทศจีน ตั้งแต่วิกฤตอสังหาริมทรัพย์ หนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่เพิ่มสูงขึ้น แรงกดดันจากภาวะเงินฝืด ปัญหาอัตราการว่างงานของเยาวชนภายในจีนที่สูงลิ่วเป็นประวัติการณ์ รวมถึงกระแสตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการทุ่มเม็ดเงินลงทุนในต่างประเทศ ทั้งที่ภายในประเทศกำลังประสบวิกฤต ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญของสีจิ้นผิงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทางด้าน หยุน ซุน ผู้อำนวยการโครงการจีน ประจำสถาบันสติมสันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ระบุว่า “สำหรับสีจิ้นผิง การเดินทางไปเยือนประเทศที่กำลังพัฒนา บรรทัดฐานที่สำคัญของจีนคือการมอบความช่วยเหลือทางการเงินและลงนามในข้อตกลงความร่วมมือมากมาย แต่ด้วยสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจจีน ปักกิ่งจึงไม่มีความพร้อมมากเพียงพอที่จะทำเช่นนั้นอีกต่อไป
“ผลงานด้านเศรษฐกิจได้จำกัดความสามารถของเขาในการแสดงบทบาทผู้นำประเทศมหาอำนาจใหญ่ดังเช่นที่เคยเป็นมา โดยชาวจีนจำนวนไม่น้อยกำลังตั้งคำถามว่า มีเหตุผลอะไรที่ต้องนำเงินจำนวนมากไปลงทุนในต่างประเทศ แต่ในประเทศกลับมีปัญหามากมายที่จีนกำลังประสบอยู่”
ขณะที่ พอล นันตุลยา นักวิจัยประจำสถาบันแอฟริกัน ด้านยุทธศาสตร์ศึกษา แสดงความเห็นว่า แม้การระดมทุนและการลงทุนในต่างประเทศจากจีนจะมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่รัฐบาลจีนก็ได้ปรับเพิ่มการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการทหารในแอฟริกา ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างพรรคต่อพรรค เพิ่มการจัดตั้งสถาบันขงจื่อ และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่แอฟริกันในสถาบันทางการทหารในจีนมากขึ้น เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้เป็นกิจกรรมที่มีต้นทุนต่ำ แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในแง่ความสามารถของจีน เพราะสิ่งนี้จะแสดงให้บรรดาพันธมิตรในแอฟริกาเห็นว่า จีนยังคงห่วงใยพวกเขา แม้ว่าจะมีการปรับลดเงินทุนสำหรับการริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ
นอกจากประเทศสมาชิกหลัก 5 ประเทศแล้ว ผู้นำและผู้แทนอีก 64 ประเทศยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำในครั้งนี้ รวมถึงประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน 2023 และผู้นำทุกประเทศในแอฟริกา
แฟ้มภาพ: Gianluigi GUERCIA / POOL / AF
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2023/08/20/china/brics-summit-xi-jinping-south-africa-visit-intl-hnk/index.html
- https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3231482/brics-summit-african-countries-wait-wings-expansion-economic-bloc
- https://www.reuters.com/world/chinese-president-xi-meet-african-leaders-during-brics-summit-2023-08-18/