ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเตือนไม่ให้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหวนคืนสู่การเผชิญหน้าและแบ่งแยกแบบยุคสงครามเย็น พร้อมแนะว่าทุกประเทศในภูมิภาคควรร่วมมือกันให้มากขึ้นเพื่อพิชิตความท้าทาย ทั้งการฟื้นฟูประเทศจากโรคระบาดโควิดและแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
สีจิ้นผิงกล่าวในการประชุมทางไกลภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสุดยอดผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกที่นิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพว่า “ความพยายามในการขีดเส้นทางอุดมการณ์และสร้างวงกลมเล็กๆ บนพื้นฐานภูมิรัฐศาสตร์จะประสบความล้มเหลว”
คำกล่าวของผู้นำมีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจากกรณีไต้หวัน ขณะที่สหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กลับมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง และมีการกระชับความร่วมมือกับหลายประเทศ เช่น ในกลุ่ม Quad กับอินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย และสร้างกลุ่มพันธมิตรใหม่ในชื่อ AUKUS ร่วมกับออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกมองว่าเพื่อคานอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการทหารของจีนในภูมิภาค
แอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวานนี้ (10 พฤศจิกายน) ว่า สหรัฐฯ จะทำให้แน่ใจว่าไต้หวันสามารถป้องกันตนเองจากประเทศใดก็ตามที่พยายามเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ด้วยกำลังทหาร
ก่อนหน้านี้ในวันอังคาร (9 พฤศจิกายน) กองทัพจีนเผยว่า ได้ดำเนินการลาดตระเวนเพื่อเตรียมพร้อมสู้รบในบริเวณใกล้กับช่องแคบไต้หวัน หลังกระทรวงกลาโหมจีนประณามสหรัฐฯ ที่ส่งคณะผู้แทนจากสภาคองเกรสไปเยือนไต้หวัน ซึ่งเป็นการกระทำที่จีนมองว่าแทรกแซงกิจการภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดระหว่างสองชาติมหาอำนาจอาจลดลงบ้าง เมื่อ โจ ไบเดน กับ สีจิ้นผิง มีกำหนดหารือกันในรูปแบบการประชุมทางไกล ซึ่งคาดว่าจะจัดขึ้นในวันจันทร์หน้า (15 พฤศจิกายน)
ภาพ: Kevin Frayer / Getty Images
อ้างอิง: