วันนี้ (11 ธันวาคม) adidas เปิดตัวลูกฟุตบอลสำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศของฟีฟ่า เวิลด์คัพ กาตาร์ 2022 โดยมาในชื่อว่า ‘อัล ฮิล์ม’ (Al Hilm) ที่แปลว่า ‘ความฝัน’ ในภาษาอาหรับ เพื่อให้มีความหมายเชื่อมโยงกับลูกฟุตบอล ‘อัล ริห์ลา’ (Al Rihla) ที่แปลว่า ‘การเดินทาง’ ซึ่งถูกใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา
ลูกบอลทั้งสองรุ่นออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน เพื่อให้สามารถเคลื่อนที่ในอากาศได้เร็วกว่าลูกฟุตบอลลูกอื่นๆ ที่เคยใช้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก พร้อมทั้งรองรับการตอบสนองความเร็วของการแข่งขันในระดับสูงสุด โดยลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม มาพร้อมกับลวดลายกราฟิกอันโดดเด่น ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์อย่างฟีฟ่า เวิลด์คัพ ในรอบสุดท้าย
ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม ได้รับการออกแบบให้มีพื้นผิวสีทองบนแพตเทิร์นสามเหลี่ยมสะดุดตา โดยดีไซน์ดังกล่าวได้รับแรงบันดาลใจมาจากประกายระยิบระยับของทะเลทราย ซึ่งโอบล้อมรอบเมือง สีของถ้วยรางวัลฟีฟ่า เวิลด์คัพ และลวดลายของธงชาติกาตาร์ พร้อมแต่งเติมความสมบูรณ์แบบด้วยกราฟิกสีแดงเข้ม เพื่อให้สะท้อนภาพสถาปัตกรรมและธงชาติกาตาร์ได้อย่างลงตัว
สำหรับชื่อ อัล ฮิล์ม หรือ ‘The Dream’ ในภาษาอังกฤษ ถือเป็นตัวแทนของช่วงเวลาพลบค่ำ ยามเมื่อท้องฟ้าสีแดงบรรจบกับผืนทะเลทราย ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นที่ความฝันของผู้คนจะถูกทำให้เป็นจริงภายใต้แสงไฟจากลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม สนามแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
นิก แคร็กส์ ผู้จัดการทั่วไปของ adidas Football กล่าวว่า “ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม คือตัวแทนของแสงสว่างที่เกิดจากการเชื่อมโยงทั้งโลกเข้าด้วยกันผ่านพลังของกีฬาฟุตบอล ช่วงเวลาที่ผู้คนนับล้านจากเกือบทุกประเทศทั่วโลกรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อถ่ายทอดความหลงใหลที่มีต่อเกมกีฬาชนิดนี้ ซึ่ง adidas ขออวยพรให้ทุกทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้ายโชคดีในการแข่งขันบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกีฬาฟุตบอลนี้”
adidas ได้นำข้อมูลจากผลการทดสอบอย่างละเอียดในห้องทดลองของ adidas อุโมงค์ลม และสนามแข่งขัน มาใช้ในการออกแบบลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม ซึ่งลูกบอลนี้มีชิ้นส่วนและพื้นผิวสัมผัสเช่นเดียวกับลูกฟุตบอลอัล ริห์ลา ที่ได้เปิดตัวไปก่อนหน้า ดังนี้
CTR-CORE – แกนกลางแบบใหม่ที่อยู่ภายในลูกบอลที่มีการพัฒนาเพื่อเพิ่มความแม่นยำ ความมั่นคง และความเร็วในการเล่น ด้วยรูปทรงและการกักเก็บอากาศสูงสุด
SPEEDSHELL – พื้นผิวลูกฟุตบอลทำจากวัสดุโพลียูรีเทน (Polyurethane) มีผิวสัมผัสขนาดเล็กบนชิ้นส่วนรูปแบบใหม่จำนวน 20 ชิ้น ช่วยพัฒนาความแม่นยำ เสถียรภาพของการเคลื่อนที่ในอากาศ และการยิงลูกฟุตบอลแบบโค้งให้ดียิ่งขึ้น
adidas ได้นำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน อย่าง ‘Connected Ball’ มาไว้ในลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม เช่นเดียวกับลูกฟุตบอลอัล ริห์ลา ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยให้เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันสามารถทำการตัดสินได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้
จากการรวมข้อมูลตำแหน่งผู้เล่นเข้ากับเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้ทีม Video Assistant Referees (VAR) สามารถทำการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยการนำข้อมูลการติดตามลูกฟุตบอลที่เซ็นเซอร์ภายในจับไว้ได้ มารวมกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จึงทำให้เทคโนโลยี Connected Ball สามารถทำหน้าที่แจ้งเตือนการล้ำหน้าอัตโนมัติให้กับทีม VAR ได้อีกด้วย
สำหรับลูกฟุตบอล อัล ฮิล์ม ยังได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ด้วยการใช้น้ำหมึกและกาวที่มีส่วนประกอบจากน้ำเป็นหลัก ดังนั้น ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม จึงถือเป็นลูกฟุตบอลสำหรับฟุตบอลโลกรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศลูกแรกที่ใช้การผลิตในลักษณะนี้
ลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม โปร ราคา 5,000 บาท และลูกฟุตบอลอัล ฮิล์ม มินิ ราคา 500 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2565 เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป ที่ adidas Brand Center, แอปพลิเคชัน adidas, adidas Online Store: www.adidas.co.th และช่องทาง LINE: @adidasthailand, Ari Football, Supersports และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ