องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization: WMO) เผยแพร่ประกาศเรื่องก๊าซเรือนกระจกประจำปีทางเว็บไซต์ พบว่าภาพรวมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) หรือก๊าซเรือนกระจกในปีนี้ลดลงอย่างมาก เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้การคมนาคมและกิจกรรมของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
แต่นักวิทยาศาสตร์ของ WMO ชี้ว่า ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงทั่วโลกนั้น มีผลกระทบต่อความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ‘เพียงเล็กน้อย’ เท่านั้น
จากข้อมูลของ WMO พบว่า ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก ในปี 2019 ซึ่งใช้มาตรวัดแบบหนึ่งส่วนในล้านส่วน (PPM) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 410.5 ppm เพิ่มจากปี 2018 ราว 2.6 ppm ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นในปริมาณมากที่สุดในรอบทศวรรษ
ขณะที่การล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ ทำให้การแพร่กระจายของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง 17% แต่ผลกระทบโดยรวมที่มีต่อความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศนั้นน้อยมาก
จากการประเมินขั้นต้นคาดว่า ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นน้อยลงกว่าปี 2019 เฉลี่ยประมาณ 0.08 ถึง 0.23 ppm ซึ่งแทบไม่ส่งผลอะไร และอยู่ในระดับ 1 ppm ซึ่งเป็นค่าความแปรปรวนตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ในแต่ละปี
“เราทะลุเกณฑ์ทั่วโลกที่ 400 ppm ในปี 2015 และเพียง 4 ปีต่อมา เรามีมากกว่า 410 ppm อัตราการเพิ่มขึ้นเช่นนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ การลดลงของการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจก ที่เกี่ยวข้องกับการล็อกดาวน์นั้นเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยในกราฟระยะยาว เราต้องการให้เส้นโค้งแบนลงอย่างต่อเนื่อง” ศาสตราจารย์เพตเตรี ทาอาลาส เลขาธิการทั่วไปของ WMO กล่าว
และถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการสรุปภาพรวมความเข้มข้นของระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของปีนี้ แต่หลายหน่วยงานเฝ้าระวัง ชี้ว่าความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศจะยังเพิ่มต่อเนื่องในปีนี้ แม้มีการระบาดของโควิด-19
นอกจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พบว่าก๊าซมีเทนที่เป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่แพร่กระจายจากฝีมือมนุษย์ ทั้งจากการเลี้ยงปศุสัตว์ การปลูกข้าว การขุดเจาะบ่อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ก็มีระดับความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น แม้จะลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 จะไม่ช่วยชะลอการเพิ่มขึ้นของระดับความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ในชั้นบรรยากาศ แต่การลดลงของการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี ก็แสดงให้เห็นว่าอะไรที่เป็นไปได้
“การระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่ทางออกสำหรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม มันให้พื้นที่เราสำหรับการดำเนินการด้านสภาพอากาศที่ยั่งยืนและทะเยอทะยาน เพื่อลดการแพร่กระจายของก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงในระบบอุตสาหกรรมพลังงานและการขนส่งทั้งหมดของเรา” ศาสตราจารย์ทาอาลาส กล่าว พร้อมเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นนั้นมีราคาไม่สูงนัก และเป็นไปได้ในทางเทคนิค ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
