วานนี้ (26 เมษายน) ธนาคารโลกได้เผยแพร่รายงานภาพรวมตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเตือนผลกระทบจากสงครามในยูเครนว่าอาจก่อให้เกิดภาวะช็อกของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Price Shocks) ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 50 ปี หรือนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970
ธนาคารโลกระบุว่า ภาวะช็อกของตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อันเกิดจากการหยุดชะงักในการผลิตที่เป็นผลจากความขัดแย้งและสงครามในยูเครน ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้นทั้งอาหารและพลังงาน ตั้งแต่ก๊าซธรรมชาติ ฝ้าย และข้าวสาลี อีกทั้งยังส่งผลเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้า การผลิต และการบริโภคทั่วโลกในหลายหนทาง ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2024
“โดยรวมแล้วนี่เทียบเท่ากับภาวะช็อกของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ครั้งใหญ่สุดที่เราเคยเผชิญมานับตั้งแต่ยุค 1970 ภาวะตื่นตระหนกทวีความรุนแรงจากการเพิ่มขึ้นของข้อจำกัดในการค้าขายอาหาร พลังงาน และปุ๋ย” อินเดอร์มิต กิลล์ รองประธานด้านการเติบโตอย่างเท่าเทียม การเงิน และสถาบันของธนาคารโลก กล่าว
นอกจากนี้หากราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2024 ยังมีความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ ‘ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Stagflation)’ ซึ่งเกิดจากการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง
การปรับเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นับได้ว่าสูงที่สุดตั้งแต่เกิดวิกฤตราคาน้ำมันในปี 1973 โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอาหาร รวมถึงปุ๋ยที่พึ่งพิงก๊าซธรรมชาติในการผลิต พุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งรัสเซียและยูเครนถือเป็นผู้ผลิตอาหารและสินค้าการเกษตรรายใหญ่ของโลก
ปีเตอร์ เนเกิล ผู้เขียนรายงานดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ต่อ BBC ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเริ่มส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและมนุษยธรรมอย่างมหาศาล โดยประชาชนทุกครัวเรือนทั่วโลกกำลังรู้สึกได้ถึงวิกฤตค่าครองชีพที่เกิดขึ้น
“เรากังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับครัวเรือนที่ยากจนที่สุด เนื่องจากพวกเขาต้องใช้รายได้ในสัดส่วนที่มากขึ้นสำหรับอาหารและพลังงาน ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากราคาที่พุ่งสูงขึ้นมากเป็นพิเศษ” เขากล่าว
ขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ราคาพลังงานนั้นอาจเพิ่มสูงมากกว่า 50% ในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น
โดยราคาพลังงานที่จะเพิ่มมากที่สุดคือราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรป ซึ่งอาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า คาดว่าจะลดลงต่อเนื่องในปีหน้าและปี 2024 แต่จะยังสูงกว่าระดับราคาในปี 2021 ไม่น้อยกว่า 15%
ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น สินค้าเกษตรและโลหะ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 20% ในปีนี้ ก่อนจะค่อยๆ ลดลงในปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่สงครามยูเครนยืดเยื้อหรือมีการเพิ่มการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย คาดว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาจเพิ่มสูงขึ้นและผันผวนมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนนี้
ภาพ: Photo by Beata Zawrzel / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/business-61235528
- https://www.theguardian.com/business/2022/apr/26/ukraine-war-food-energy-prices-world-bank
- https://www.worldbank.org/en/news/press-release/2022/04/26/food-and-energy-price-shocks-from-ukraine-war
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP