ธนาคารโลก (World Bank) หั่นแนวโน้มการเติบโตของจีนในปี 2022 เหลือ 2.7% จากการคาดการณ์ในเดือนมิถุนายนก่อนหน้าที่ 4.3% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับ 4.3% ในปีหน้า ลดลงจากการคาดการณ์การเติบโตก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 8.1%
สาเหตุของแนวโน้มความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว World Bank ชี้ว่าเป็นผลจากการบังคับใช้มาตรการ Zero-COVID อย่างเข้มงวดในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา รวมกับวิกฤตสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภาวะ เศรษฐกิจถดถอย อาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด เปิดกลยุทธ์รับมือเน้น Predict-Prepare-Perform
- ‘ไบเดน’ ปัดเศรษฐกิจโลกตกต่ำไม่ได้มาจากดอลลาร์แข็ง แต่มาจากนโยบายที่ผิดพลาดของประเทศอื่น
- ภาระ ‘ผ่อนบ้าน’ อาจเป็นพายุลูกใหม่ซ้ำเติมเศรษฐกิจโลก เมื่อดอกเบี้ยบ้านแพงสุดรอบ 15 ปี
แถลงการณ์ของ World Bank ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในจีนยังคงแปรผันตามการขึ้นและลงของระดับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในประเทศจีน ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีหน้าขาดความสม่ำเสมอต่อเนื่อง
Mara Warwick ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศจีน มองโกเลีย และเกาหลีใต้ กล่าวว่า การปรับตัวอย่างต่อเนื่องของนโยบายการแพร่ระบาดของจีนจะมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสาธารณสุขของประเทศ
“ความพยายามเร่งรัดในการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข รวมถึงความพยายามในการเพิ่มการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จะช่วยให้การทำงานมีความปลอดภัยมากขึ้น ภายใต้ปัจจัยก่อกวนที่น้อยลง”
ยิ่งไปกว่านั้น World Bank ยังมองว่า นอกจากไวรัสโควิดแล้ว เศรษฐกิจของจีนยังเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก ทั้งแนวโน้มการชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลก การรับมือกับสภาพภูมิอากาศ ภาวะเงินเฟ้อ ตลอดจนความตึงเครียดกดดันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ท่ามกลางการใช้มาตการทางการเงินที่ระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น
Elitza Mileva หัวหน้าทีมเศรษฐศาสตร์ World Bank กล่าวว่า ยังจำเป็นต้องมีการสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจมหภาคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าการขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจจะยังคงต่ำกว่าศักยภาพ และสภาพแวดล้อมของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังอ่อนแอลง
ยิ่งไปกว่านั้น นักเศรษฐศาสตร์รายนี้ยังเห็นว่าการกำกับทรัพยากรทางการคลังไปสู่การใช้จ่ายเพื่อสังคมและการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงแต่สนับสนุนความต้องการในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังมีส่วนส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืนในระยะกลางอีกด้วย
วันเดียวกัน ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานรวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญที่ออกมาแสดงความเห็นต่อการฟื้นตัวในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนในปี 2023 หลังจากปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับมรสุมลูกแล้วลูกเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเครื่องปรับปรุงกฎระเบียบบรรดาบริษัทเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ ในปีหน้านักลงทุนส่วนใหญ่ต่างให้ความระมัดระวังเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีของจีน โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่ากฎระเบียบจะมีความรัดกุมและสอดคล้องกับบริษัทมากขึ้น ขณะที่การเติบโตจะเร่งตัวขึ้น แต่ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจจีนทำให้การลงทุนในหุ้นจีนยังคงมีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม สัญญาณที่บ่งชี้ว่าจีนอาจกำลังจะกลับเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ทำให้นักลงทุนมีความหวังที่จะกลับมาฟื้นตัว
โดยนักวิเคราะห์จากธนาคารเพื่อการลงทุนอย่าง Jefferies กล่าวในบันทึกการวิจัยเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า ตนเองมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มภาคอินเทอร์เน็ตในปี 2023 ของจีนในแง่ของการกลับมาเปิดประเทศใหม่และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์มองว่าการเติบโตของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของจีนจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปี 2023 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนเตรียมที่จะกลับมาเปิดอีกครั้ง แต่การเติบโตไม่น่าจะอยู่ในระดับเดิมเหมือนที่เคยเห็นในอดีตที่ตัวเลขการเติบโตของรายรับรายไตรมาสของจีนพุ่งขึ้น 30-40%
ส่วนนักวิเคราะห์จาก Refinitiv ประเมินว่า หุ้นยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ก่อนที่จะเร่งขึ้นเป็น 6% ในไตรมาสแรกของปี 2023 และ 12% ในไตรมาสถัดไป
อ้างอิง: