บรรดาผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์หลายสำนักต่างจับตามองสถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอย่างใกล้ชิด หลังมีแนวโน้มฟื้นตัวในทางบวก หลังจากที่ Country Gaden สามารถบรรลุข้อตกลงกับเหล่าเจ้าหนี้ในการขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้มูลค่า 3.9 พันล้านหยวน ช่วยให้นักลงทุนทั้งหลายพอจะมีเวลาหายใจหายคอได้คล่องขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งออกโรงเตือนว่า สถานการณ์โดยรวมของภาคอสังหาจีนยังไม่อาจวางใจได้ โดยต้องรอดูกันต่อไปว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลกรุงปักกิ่งจะช่วยฟื้นฟูอุปสงค์ คลี่คลายปัญหาสภาพคล่อง และทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจจีนกลับมาเคลื่อนไหวเติบโตได้อีกครั้งหรือไม่ ขณะที่ปัญหาทางการเงินของบริษัทนักพัฒนาอสังหาเอกชนชั้นนำของจีนกลับยิ่งตอกย้ำถึงสถานะที่เปราะบางของอุตสาหกรรมอสังหาของประเทศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของเศรษฐกิจจีน และภาคดังกล่าวเผชิญกับมรสุมที่เลวร้ายที่สุดมาตั้งแต่ปี 2021
ทั้งนี้ หุ้นของ Country Garden ในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 7% ในการซื้อขายช่วงเช้าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (4 กันยายน) ขณะที่ดัชนีอสังหา Hang Seng ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเพิ่มขึ้นมากกว่า 6%
รายงานระบุว่า ข้อตกลงที่เกิดขึ้นช่วยให้ Country Garden สามารถขยายเวลาชำระหนี้จากเส้นตายเดิมภายในวันที่ 2 กันยายนนี้ เป็นระยะเวลาอีก 3 ปีข้างหน้าแทน ช่วยให้ Country Garden รอดพ้นจากวิกฤตการผิดนัดชำระหนี้ได้อย่างหวุดหวิด
แหล่งข่าววงในระบุว่า การที่ Country Garden รอดจากการผิดนัดชำระหนี้ในครั้งนี้ กลายเป็นความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถพลิกฟื้น จนกระทั่งสามารถจ่ายดอกเบี้ยของหุ้นกู้ของบริษัทได้ รวมถึงหวังว่าบริษัทจะเข้าสู่การเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมดที่มีทั้งในและต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
นอกจากนี้ โอกาสในการกลับมาเติบโตในภาคอสังหาของจีนยังได้อานิสงส์จากบรรดามาตรการนโยบายต่างๆ ที่ทางรัฐบาลจีนเข็นออกมา โดยเฉพาะมาตรการลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้บ้าน และสินเชื่อพิเศษสำหรับการซื้อบ้านหลังแรกในเมืองใหญ่
Tara Hariharan กรรมการผู้จัดการของกองทุนป้องกันความเสี่ยงระดับมหภาคระดับโลก NWI Management ในนครนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา ชี้ว่านักธุรกิจและนักลงทุนทั่วโลกน่าจะได้เห็นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าว่า บรรดามาตรการด้านอุปทานเหล่านี้จะสามารถฟื้นฟูอุปสงค์ในการซื้อบ้านได้หรือไม่ ซึ่งมีความสำคัญต่อชะตากรรมของอุตสาหกรรมอสังหาสัญชาติจีน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งก็เตือนว่า แม้อุตสาหกรรมอสังหาจะมีแนวโน้มในทางบวกมากขึ้น แต่นักลงทุนในตลาดส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่า พร้อมที่จะเทขาย และหลีกเลี่ยงการลงทุนในภาคอสังหาในระยะเวลาอันใกล้นี้ เพื่อรอจนกว่าสถานการณ์ด้านยอดขายบ้านจะดีดตัวขึ้น
อ้างอิง: