ต่อให้โควิด-19 ผ่านไป แต่เชื่อว่าสิ่งที่จะเหลือทิ้งไว้คือการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ในหลายๆ ด้าน รวมทั้งชีวิตการทำงาน เพราะนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2019 การ Work from Home ก็กลายเป็นเรื่องที่คุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้หลายๆ บริษัทเริ่มพลักดันวิถีการทำงานรูปแบบนี้กันมานาน จนกระทั่งโควิด-19 มาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
มีการสำรวจผู้บริหารระดับ CFO ทั่วโลก พบว่าบางตำแหน่งในบริษัทสามารถ Work from Home ได้ตลอดไป ทำให้การทำงานที่บ้านไม่ได้จำกัดสำหรับคนที่ทำอาชีพอิสระเท่านั้น และในเมื่อทำงานที่บ้านได้ แล้วทำไมจะทำงานที่อื่นด้วยไม่ได้ Work from Anywhere จึงกลายเป็นเทรนด์ใหม่หลังยุคโควิด-19
ปัจจุบันคนทำงานแบบไร้ออฟฟิศ หรือ Digital Nomad มีอยู่ราว 25 ล้านคนทั่วโลก เมื่อรวมกับพนักงานจากหลายๆ บริษัทที่เริ่มให้โอกาสเลือกวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ นั่นหมายความว่าจะมีคนทำงานแบบไร้ออฟฟิศเพิ่มมากขึ้นอีกนับร้อยล้านคน ทำให้เริ่มมีการมองหาที่พักระยะยาว หรือบ้านหลังที่ 2 สำหรับพักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆ กัน จุดนี้ดูเป็นข้อได้เปรียบสำหรับประเทศไทยที่มีจุดเด่นเรื่องธรรมชาติที่สวยงาม และนิสัยรักการบริการที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่แล้ว จึงเป็นช่องทางสำหรับนักลงทุนที่มีทุนหนาพอสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ทั้งแบบปล่อยเช่าระยะยาวหรือขายต่อในเมืองท่องเที่ยวสำคัญๆ ของไทย
“ความสำคัญของการรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย และความต้องการพื้นที่ทำงานนอกออฟฟิศที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้คนจำนวนมากเริ่มใช้ชีวิตอยู่ระหว่างสองที่ นั่นคือบ้าน และ ‘ที่อื่น’ ซึ่งรวมไปถึงการพักร้อนแบบพักระยะยาว (Long Stay) หรือบ้านหลังที่สอง ผลการสำรวจผู้ซื้อทั่วโลกโดย Knight Frank’s Global Buyer Survey ที่จัดทำขึ้นในเดือนมิถุนายน 2020 ใน 44 ประเทศทั่วโลก พบว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 26% มีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านหลังที่สองเพราะผลกระทบจากการระบาดของโรคในครั้งนี้” ไมคา ตามไท รองประธานกรรมการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้
ความจริงแล้วตลาดบ้านพักตากอากาศค่อนข้างร้อนแรงมาตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 โดยเฉพาะโครงการระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรีในแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำบนทำเลติดชายหาดหรือเห็นวิวทะเล หรือเป็นโครงการที่มีแบรนด์โรงแรมชั้นนำ ถึงจะมีราคาสูงก็มียอดจองที่สูงตามไปด้วย อาจจะหยุดชะงักไปบ้างในปีครึ่งที่ผ่านมา แต่ด้วยสถานการณ์ในต่างประเทศที่ดีขึ้น ตลาดบ้านพักตากอากาศก็เหมือนจะเริ่มเป็นที่สนใจขึ้นอีกครั้ง
“ที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์กำลังเติบโตทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคนี้ รายงานเมื่อเดือนมีนาคม 2020 โดย C9 Hotelworks ว่าที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ 1 ใน 3 ของโลกตั้งอยู่ในเอเชีย โดยมีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ข้อได้เปรียบก็คือมีความรู้ความชำนาญในด้านคุณภาพและมาตรฐานการบริการ ช่วยให้ผู้ซื้อวางใจและสบายใจ และในแง่การลงทุนก็สามารถสร้างผลตอบแทนทั้งในระยะยาวและระยะสั้น กับความสะดวกสบายจากโรงแรมหรือรีสอร์ตที่เข้ามาเสริม รวมทั้งมีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนจากโปรแกรมปล่อยเช่าโดยการบริหารของโรงแรมหรือรีสอร์ต” ไมคาเสริม
ปัจจุบันหลายๆ แบรนด์โรงแรมและรีสอร์ตน้อมรับเทรนด์ใหม่ที่ว่านี้ อย่างที่เราได้เห็นกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า มีคอนโดมิเนียมระดับอัลตราลักชัวรีในกรุงเทพฯ ที่ใช้แบรนด์โรงแรมเข้ามาบริหาร ไม่ว่าจะเป็น Mandarin Oriental Residence, Banyan Tree Residences Riverside Bangkok, The Ritz-Carlton Residences Bangkok ฯลฯ ในขณะที่โครงการบ้านพักตากอากาศสำหรับลูกค้าระดับบนตามเมืองท่องเที่ยวก็คึกคัก แต่ละโครงการชูจุดเด่นเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นวิลล่าขนาดใหญ่สำหรับมหาเศรษฐี คอนโดมิเนียมที่มีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการทำงานนอกสถานที่ บ้านพักอิงแอบกับธรรมชาติเน้นเรื่องสุขภาพแบบองค์รวม เป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่อยากจะปล่อยเช่า หรือซื้อไว้อยู่อาศับต้อนรับเทรนด์ใหม่ที่กำลังจะมาถึง
3 โครงการบ้านพักตากอากาศใหม่เอื่ยมภายใต้แบรนด์โรงแรมชั้นนำ
Avadina Hills by Anantara ราคาเริ่มต้น 315 ล้านบาท
โครงการวิลล่าสุดหรู 11 หลังในเครือบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล บนเนินเขาที่หาดลายัน จังหวัดภูเก็ต มีขนาดตั้งแต่ 2,642-3,373 ตารางเมตร ตกแต่งอย่างหรูหรา เน้นความเรียบง่าย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นของบริษัท คาจิมา ผู้ร่วมพัฒนาโครงการ แต่ละวิลล่ามาพร้อมกับห้องนอน 4-10 ห้อง สระว่ายน้ำอินฟินิตี ระเบียงอาบแดดขนาดใหญ่ โดยมีพื้นที่อเนกประสงค์ด้านล่างซึ่งสามารถดัดแปลงได้ตามแต่ความต้องการของเจ้าของ ที่นี่ได้รับการดูแลและบริหารโดย อนันตรา ลายัน ภูเก็ต รีสอร์ท ที่อยู่ติดกัน ซึ่งจะมีทีมงานดูแลในส่วนของเรสซิเดนซ์โดยเฉพาะ พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการได้แก่ ชายหาดส่วนตัว สระว่ายน้ำ สปา ยิม สนามเทนนิส คิดส์คลับ รวมไปถึงห้องอาหารและบาร์ชั้นนำระดับโลกที่คอยบริการผู้เข้าพักและเจ้าของวิลล่า นอกจากนี้ยังมีบริการอำนวยความสะดวกอีกมากมาย เช่น บริการจัดมื้ออาหารส่วนตัวในวิลล่า สปาและทรีตเมนต์ในวิลล่า รวมไปถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์และท่าจอดเรืออีกด้วย
Intercontinental Residences Hua Hin ราคาเริ่มต้น 7.89 ล้านบาท
โครงการบน Prime Area ของชายหาดหัวหิน ที่หาแทบไม่ได้แล้วในทุกวันนี้ แวดล้อมไปด้วยบ้านพักตากอากาศของตระกูลเก่าแก่ของเมืองไทย โครงการนี้เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด การอยู่อาศัยไม่แออัด เพราะจำนวนห้องทั้งโครงการที่มีเพียง 238 ยูนิต ในพื้นที่ 7 ไร่ครึ่ง ตัวห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติจึงสามารถใช้อยู่บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่พื้นที่ส่วนกลางมีบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง, เพิ่มจุดบริการ Wireless Charge & USB Port, เพิ่มพื้นที่ส่วนตัว สำหรับนั่งทำงานนอกสถานที่ทั้งวิวสวนและริมหาด, ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบไร้การสัมผัส (Touchless) เช่น ระบบจดจำใบหน้า รวมถึง CCTV ที่สามารถสแกนอุณหภูมิร่างกายได้ อีกทั้งยังมีบริการมารตรฐานจากโรงแรมระดับโลก ทั้งบริการคอนเชียร์ส, บริการ In-room Dining Service, บริการซื้อสินค้าหรือของสดส่งตรงถึงห้องพัก Grocery Service เป็นต้น
Tri Vananda ราคาเริ่มต้น 16.5 ล้านบาท
โครงการในเครือเดียวกับตรีสรา โรงแรมสุดหรูในจังหวัดภูเก็ต โดยมีจุดเด่นด้วยคอนเซปต์ Wellness Community เน้นเรื่องสุขภาพแบบองค์รวมบนพื้นที่ 600 ไร่ให้สอดรับไปกับยุทธศาสตร์ Phuket Medical Hub ที่จะผลักดันให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพของโลก โครงการประกอบด้วย 3 โซนหลัก คือโซนที่พักอาศัย รีสอร์ตเพื่อสุขภาพ และสวนพฤกษศาสตร์ ในส่วนของสิ่งปลูกสร้างมีเพียง 15% ส่วนที่เหลือจะยังคงความเป็นธรรมชาติและสร้างสมดุลของแก่ระบบนิเวศอย่างดีที่สุด โดยเฟสแรกเป็นวิลล่าทั้งหมด 77 หลัง พื้นที่ใช้สอย 120-1,800 ตารางเมตร มีทั้งวิลล่า 1 ห้องนอน ถึงวิลล่า 4 ห้องนอน ทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว โครงการนี้ออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกและโปรแกรมด้านสุขภาพให้กับผู้พักอาศัย เช่น ห้องบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, ห้องกายภาพบำบัด ฟื้นฟูสุขภาพทั้งกายและใจโดยทีมงานผู้ชำนาญการ, ศูนย์สุขภาพ ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคและการรักษาด้วยการแพทย์แบบบูรณาการ
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- https://propholic.com/prop-now/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89/?fbclid=IwAR0ITDschYaaeWaVBQ4blva0vbZmdFNrytJH0WHJ1cZZxbOix47yTBOepAE
- https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/881312