วันนี้ (6 พฤษภาคม) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ให้ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. และรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ขาดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส. และรัฐมนตรี กรณีเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ เครือรัฐออสเตรเลีย ความผิดคดียาเสพติดเมื่อปี 2536 ว่า เคยมีความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำสั่ง ว่าหากถูกพิพากษาจำคุกในหรือต่างประเทศตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยพ้นโทษมาแล้วไม่ถึง 5 ปีถือว่าเป็นบุคคลต้องห้าม ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แต่กรณี ร.อ. ธรรมนัส ถูกตัดสินลงโทษจำคุกคดียาเสพติดตั้งแต่ ปี 2536 และพ้นโทษเมื่อปี 2540 ถือว่าพ้นโทษมาแล้วเกิน 5 ปี จึงถือว่าไม่ขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย
ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ ความเหมาะสมเรื่องจริยธรรมคุณธรรมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วแต่จะวิจารณ์กัน
ส่วนจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. วินิจฉัยในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ในข้อกฎหมายถือว่าสิ้นสุดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่เป็นประเด็นถกเถียงข้อกฎหมายในสังคม ศาลรัฐธรรมนูญควรจะทำคำชี้แจงกับสังคมหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องชี้แจงหรือพูดอะไรเพิ่มเติม เพราะได้วินิจฉัยจบแล้ว ส่วนผลทางวิชาการ ทางการเมือง แล้วแต่จะวิจารณ์กันไป
ทั้งนี้วิษณุยืนยันด้วยว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานที่ใช้ได้กับทุกคนเพราะไม่เคยมีคำวินิจฉัยมาก่อน และใช้ได้กับความผิดทุกกรณีไม่เฉพาะแต่ความผิดคดียาเสพติดอย่างเดียว แต่ไม่ใช่การล้างมลทิน เพราะเป็นเรื่องคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามซึ่งอาจจะมีมลทินก็ได้
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ