วันนี้ (11 กรกฎาคม) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรียุติธรรมอาเซียน ร่วมกับรัฐมนตรียุติธรรม G7 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการประชุมร่วมกัน 17 ประเทศ โดยประเทศไทยได้รับการชื่นชม 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการแก้ปัญหายาเสพติด
วิษณุระบุว่า โดยเฉพาะการที่เราจับผู้ต้องหายาเสพติดได้เยอะ คนในประเทศอาจจะตำหนิว่ายาเสพติดในประเทศมีมาก แต่ต่างประเทศมองว่าประเทศไทยใช้มาตรการแบบต่างๆ อย่างได้ผล อย่างประเทศออสเตรเลียก็ได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อขอบคุณประเทศไทยที่ป้องกันไม่ให้ยาเสพติดทะลักไปประเทศเขา กับเรื่องที่ 2 คือ ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่ประกาศใช้หลักสิทธิมนุษยชนในเรื่องเศรษฐกิจและธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ยังมีการแสดงความกังวลในเรื่องของนักโทษล้นคุกในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมาก และกังวลว่าหากโควิดกลับมาระบาด อยากให้รัฐบาลไทยช่วยดูแลเรื่องนี้ให้ดี ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงถึงมาตรการอย่างเรื่องการอภัยโทษ
วิษณุกล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการ ‘เฮาส์อาร์เรสต์’ ของกระทรวงยุติธรรม ที่มีอยู่แล้วสำหรับผู้ที่ต้องโทษจำคุกอายุเกินที่กำหนด และรับโทษตามเงื่อนไขแล้วก็อาจไม่ต้องจำคุกในเรือนจำ โดยใช้ได้เฉพาะความผิดบางประเภทเท่านั้น เช่น ผู้ที่อยู่ระหว่างการสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการเป็นผู้ต้องหา ไม่ใช่ผู้ที่อยู่ระหว่างศาลตัดสิน และคนที่ได้รับโทษจำคุกแล้วยังเหลือระยะเวลาอีกไม่มาก
รวมถึงคนที่ถูกศาลสั่งประหารชีวิตแต่อยู่ระหว่างการเจ็บป่วย กลุ่มเหล่านี้สามารถเข้าเฮาส์อาร์เรสต์ได้ ซึ่งมีคณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์พิจารณา พร้อมย้ำว่ากรณีของ ทักษิณ ชินวัตร ไม่เข้าเงื่อนไขนี้