วันนี้ (12 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวเชิงลบของวงการสงฆ์ ว่าเรื่องดังกล่าว อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตอบไปหมดแล้ว
ส่วนที่มองว่ามีเคสเกี่ยวกับพระสงฆ์เพิ่มขึ้นทุกวันนั้น วิษณุกล่าวว่า เคสเยอะขึ้นล้วนไม่ใช่เคสที่เพิ่งเกิด แต่เมื่อมีการเอาจริงเอาจังไปตรวจก็พบมากขึ้น และจะพบอีกเยอะ เหมือนการทุจริตคอร์รัปชันที่ไม่ใช่เยอะเพราะเพิ่งเกิด แต่เพิ่งกล้าและเอาจริงเอาจังตรวจจึงพบมากขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเกิดความเสื่อมขึ้นจะต้องมีการเรียกศรัทธาคืนอย่างไรหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องว่ากันยาวๆ ตอบสั้นๆ ไม่ได้
เมื่อผู้สื่อถามว่าห่วงหรือไม่กรณีที่พระสงฆ์ที่พรรษาเยอะแล้ว และอาจมีอาการป่วย แต่มีลูกศิษย์หวังใช้ท่านเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ วิษณุกล่าวว่า เราไม่ได้ตั้งให้พระที่มีพรรษาเยอะเป็นพระสังฆาธิการปกครองพระสงฆ์ ซึ่งการบวชพรรษาอยู่นานไม่มีปัญหาอะไร บางท่านอายุหลายร้อยปี แต่แม้แต่ 80 ปีก็ไม่ได้ตั้งเป็นพระสังฆาธิการแล้ว
ส่วนที่มีลูกศิษย์หาผลประโยชน์นั้น ก็เป็นสิ่งที่ต้องจัดการว่าผิดกฎหมายหรือผิดวินัยสงฆ์หรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีประชาชนสนับสนุนหรือให้ข้อมูลกับบุคคลเพื่อออกมาจัดการกับพระสงฆ์ เช่น กรณี ‘หมอปลา’ หรือ จีรพันธ์ เพชรขาว ในขณะที่พระมองว่าเป็นการไม่ให้เกียรติพระพุทธศาสนานั้น วิษณุกล่าวว่า ให้ยึดหลักทุกอย่างต้องโปร่งใส ซึ่งอาจมาจากคำแนะนำหรือการชี้เบาะแสจากใคร เหมือนการทุจริตที่มาจากการชี้เบาะแส แต่ขอให้เป็นความจริงหรือมีเหตุอันควรสงสัยไม่ใช่เสริมแต่ง จึงจะถือว่ามีประโยชน์