วันนี้ (16 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศว่าเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงรวมอันดับ 1 ว่าเป็นอย่างที่ทุกคนพูด ถือเป็นภาระหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่จะรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลตามขั้นตอน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝ่าด่านสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้หรือไม่ วิษณุกล่าวว่าไม่ทราบ เพราะขณะนี้ ส.ว. มีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย หากพูดคุยกันคงพูดกันได้
“ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดั่งใจจง เพราะถ้าขึ้นต้นด้วยการด่ากันก็พูดกันไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าทำความเข้าใจกัน เหมือนที่บางคนกำลังพยายาม ก็เป็นเรื่องที่ดี” วิษณุกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเกิดสุญญากาศทางการเมืองหรือไม่ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ได้ภายใน 3 เดือน วิษณุยืนยันว่าไม่มีคำว่าสุญญากาศ จะช้านิดช้าหน่อยก็ไม่เรียกว่าสุญญากาศ อย่างน้อยช่วง 2 เดือนนี้ กกต. ต้องประกาศรับรอง จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงเวลาการเปิดสมัยการประชุมสภา เพื่อเลือกประธานสภา และเป็นขั้นตอนของประธานสภาที่จะกำหนดในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากเลือกได้ก็เลือก หากเลือกไม่ได้ก็เลือกไปเรื่อยๆ ไม่เป็นอะไร และไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้ สุญญากาศจะมีได้อย่างไร เพราะยังมีรัฐบาลรักษาการอยู่
วิษณุกล่าวด้วยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้มีเรื่องต้องขอ กกต. ในเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการบางตำแหน่ง ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมาก็มีวาระที่จะขอไป แต่ก็เก็บเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้พ้นช่วงการเลือกตั้ง เพราะกลัวจะเป็นข้อครหาให้คุณและให้โทษก่อนการเลือกตั้ง แต่ในความเป็นจริงหน่วยราชการรายงานมาว่ามีความจำเป็น เช่น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ที่ยังมีตำแหน่งว่างอยู่
ส่วนการใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อช่วยแก้ปัญหาค่าไฟแพง เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม วงเงินกว่าหมื่นล้านบาท ที่ กกต. เพิ่งอนุมัตินั้น วันนี้จะแจ้งให้ที่ประชุม ครม. รับทราบ เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณตามขั้นตอน