วันนี้ (27 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยขั้นตอน ภายหลัง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคม ว่าเบื้องต้นได้มีการเตรียมการตามปกติไว้แล้ว
ส่วนหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ หน่วยงานในประเทศไทยเมื่อรับทราบจากการทวีตของทักษิณ ก็เชื่อว่าจะมีการเตรียมการไว้ แต่เร็วไปที่จะบอกว่าเตรียมการไว้เรื่องใดบ้าง สำหรับการเตรียมห้องขังนั้นได้เตรียมการไว้ตั้งแต่การประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนตัวไม่ทราบว่าทันทีที่ทักษิณเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วจะมีการปรากฏตัวให้ทุกคนเห็นเหมือนในอดีตที่ผ่านมาหรือไม่
ส่วนการเดินทางมาของทักษิณครั้งนี้จะมีการขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่นั้น วิษณุกล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องขังทุกคน แต่เงื่อนไขคือต้องอยู่ระหว่างการรับโทษ
เมื่อรับโทษแล้วก็สามารถที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ทั้งนี้ทันทีที่ทักษิณเดินทางมาถึงก็จะเดินทางเข้าเรือนจำเลย แต่ต้องเดินทางไปรับหมายศาลที่ศาลฎีกาซึ่งไม่ใช่การไปฟังคำพิพากษา ส่วนคดีที่เหลือก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนเหลือจำนวนกี่คดีตนเองไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบคือทักษิณถูกตัดสินลงโทษไป 3 คดี ซึ่งบางคดีหมดอายุความไปแล้ว บางคดียังไม่หมดอายุความ และบางคดียังไม่ได้ฟ้อง ซึ่งเป็นคดีเล็กน้อย เช่น การหลบหนีออกนอกประเทศที่จะต้องถูกฟ้องในอีกข้อหาหนึ่งเมื่อเดินทางกลับมา ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะฟ้องหรือไม่
เมื่อถามว่า ทักษิณอายุ 74 ปีแล้วจะได้รับสิทธิพิเศษที่ต่างจากนักโทษทั่วไปในการคุมขังหรือไม่ วิษณุยอมรับว่ามีสิทธิพิเศษ คือ 1. อายุ 70 ปีขึ้นไป และป่วย จะมีสิทธิพิเศษ แต่ทุกคนจะเท่ากันหมด ส่วนจะได้ไปอยู่โรงพยาบาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์จะพิจารณานักโทษแต่ละราย ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ดูแลนักโทษมาตลอด และไม่ได้ยุ่งยากอะไร
วิษณุยังย้ำด้วยว่า คดีของทักษิณไม่สามารถกักขังที่บ้านได้ คดีนี้ต้องเข้าเรือนจำ ส่วนระยะเวลาการถูกคุมขังก็แล้วแต่กรมราชทัณฑ์ และสามารถที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ใน 24 ชั่วโมง ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่าทักษิณจะขอพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ ตนจะไปพูดแทนไม่ได้ และขึ้นอยู่กับทักษิณที่จะเขียนฎีกาถวายเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ แต่หากไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ลงมาก็ต้องเว้นวรรคไปอีก 2 ปี
ส่วนเมื่อทักษิณถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ครอบครัวและแฟนคลับจะสามารถเข้าเยี่ยมได้ในเวลาใดนั้น วิษณุกล่าวว่า สามารถเข้าเยี่ยมได้ตามปกติ ขณะที่ทางครอบครัวสามารถเข้าเยี่ยมได้ตั้งแต่วันแรก และคนในครอบครัวสามารถที่จะเดินทางไปรับตัวทักษิณได้ตั้งแต่ที่สนามบินเช่นเดียวกับทุกคน รวมทั้งสื่อมวลชน แต่จะได้ขนาดไหนนั้นยังไม่ทราบ
เมื่อถามว่า จะได้เห็นภาพทักษิณก้มกราบแผ่นดินไทยอีกครั้งหรือไม่ วิษณุกล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่าทักษิณจะมาสายการบินใดและลงที่สนามบินไหน แม้จะรู้ว่าลงที่สนามบินดอนเมือง แต่ก็ยังมีท่าอากาศยานทหาร (บน.6) และท่าอากาศยานพาณิชย์ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวและนำตัวไปส่งศาลเพื่อให้ศาลออกหมายขัง
วิษณุยังกล่าวด้วยว่า ได้กำชับกรมราชทัณฑ์ใน 3 เรื่องเป็นพิเศษ คือ 1. ให้ดูแลด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจจะทำให้ทักษิณได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากนักโทษคนอื่น เพราะทักษิณมีปัจจัยเสี่ยง จึงต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ 2. ให้มีความสะดวกตามสมควร และไม่มีอภิสิทธิ์มาก เนื่องจากจะมีคนเข้าเยี่ยม โดยคาดการณ์ว่าจะมีองค์การระหว่างประเทศและนักสิทธิมนุษยชน แฟนคลับและมวลชนเข้าเยี่ยม และ 3. ให้มีความสบายตามสมควร แต่ไม่สบายมากนัก เนื่องจากอายุเกิน 70 ปี และมีอาการป่วยจึงต้องดูแล ไม่เหมือนกับคนที่มีอายุ 25 หรือ 30 ปี
ทั้งนี้ในเรือนจำยอมรับว่ามีห้องพิเศษที่ให้อยู่เพียงคนเดียว สมัย ราเกซ สักเสนา นักโทษคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารโดยไม่มีหลักประกัน, วิโรจน์ นวลแข นักโทษคดีปล่อยกู้เอื้อ บมจ.กฤษดามหานคร และอีกหลายคนก็ได้รับการดูแลเช่นนี้ ส่วนห้องพักจะติดแอร์หรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่เท่าที่ทราบ มีห้องแอร์ให้นักโทษเข้าไปทำงาน แต่ที่ห้องพักไม่มีแอร์ แต่ทั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับกรมราชทัณฑ์
วิษณุยังระบุอีกว่า ไม่ทราบ หากทักษิณกลับมาแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ ต้องรอถามนายกรัฐมนตรีคนใหม่