วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยอมรับหากการอภิปรายไม่สามารถจบภายใน 4 วันที่กำหนดได้ และหากจะมีการขยายวันอภิปรายออกไป จะต้องรอดูบรรยากาศในที่ประชุมคืนนี้อีกครั้ง โดยการอภิปรายจะดำเนินไปจนถึงเวลา 01.00 น. ของวันพรุ่งนี้
สำหรับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ได้ใช้เวลานานมาก ก็สามารถเป็นไปตามกำหนดเวลาที่วางไว้ได้ หากรัฐมนตรีใช้เวลาชี้แจงทุกคนอย่างละเอียด ก็จำเป็นจะต้องขยายวันลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจจากวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ ไปเป็นวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์แทน
วิรัชกล่าวต่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมใจที่จะเปิดให้ฝ่ายค้านอภิปรายกันได้อย่างเต็มที่ตามคำแนะนำของ สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ที่ต้องการให้รัฐบาลใจกว้าง เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีได้ปีละครั้ง จึงพร้อมเปิดใจให้ฝ่ายค้านอภิปราย
ทั้งนี้ วิรัชระบุว่า 3 วันที่ผ่านมา การอภิปรายของฝ่ายค้านมีเนื้อหาที่พาดพิงถึงสถาบันฯ เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ไม่สามารถที่จะปล่อยให้ละสายตาได้ และในวันพรุ่งนี้ (19 กุมภาพันธ์) จะมีการประชุมวิปรัฐบาลเพื่อกำชับเรื่องของการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้ง 10 คน โดยยังคงเน้นย้ำพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องโหวตลงมติไปในทิศทางเดียวกัน และหากพบสมาชิกท่านใดไม่ดำเนินตามมติวิปของแต่ละพรรค ก็ต้องถูกลงโทษตามข้อบังคับของพรรคการเมืองนั้นไป
สำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ ในการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ในวาระที่ 2 รายมาตรา จะยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องตามกรอบแนวทางเดิมที่วางไว้ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของ ไพบูลย์ นิติตะวัน และ สมชาย แสวงการ ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยอำนาจรัฐสภาตั้ง สสร. เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สั่งให้รัฐสภายุติหรือให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง
ซึ่งหากประชุมวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แล้วเสร็จ ก็จะเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะประสานไปยังรัฐบาลเพื่อขอเปิดสมัยประชุมวิสามัญ และจะต้องดูว่าการประชุมในวันที่ 24 และ 25 กุมภาพันธ์ จะเสร็จสิ้นตามที่วางแผนไว้หรือไม่ด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล