บมจ.วินเนอร์ยี่ เมดิคอล หรือ WINMED เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้วันแรก (11 พฤษภาคม) ราคาเปิดการซื้อขายอยู่ที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 4.2 บาท จากราคา IPO ที่ 3.10 บาท คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 135.48%
กลุ่มบริษัท WINMED ดำเนินธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องและชุดอุปกรณ์เพื่อการตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และ/หรือ บำบัดรักษาทางการแพทย์ รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อการเก็บรักษาโลหิตและผลิตภัณฑ์ของโลหิต ซึ่งบริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต 23 บริษัท ใน 12 ประเทศ รวมถึงเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้านพันธุศาสตร์จากต่างประเทศ สำหรับการให้บริการตรวจสารพันธุกรรมและความผิดปกติของทารกในครรภ์
นอกจากนี้มีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับสุขภาพและสุขอนามัย โดยในปี 2563 บริษัทมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ได้แก่ หน่วยงานและห้องปฏิบัติการฯ ของรัฐบาล 63% โรงพยาบาล คลินิก และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของเอกชน 26% และองค์กรการกุศล เช่น ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย 11%
WINMED มีทุนชำระแล้ว 200 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาหุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 372 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,240 ล้านบาท
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 24.04 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2563) ซึ่งเท่ากับ 51.59 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.129 บาท โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นันทิยะ ดารกานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WINMED กล่าวว่า จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการที่ครอบคลุมด้านงาน การเตรียมผลิตภัณฑ์เซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด (Cell Therapy) ลงทุนสร้างห้องปฏิบัติการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ทั้งนี้ WINMED มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวสุเมธ ดารกานนท์ ถือหุ้น 60.43% จิณหธาน์ ปัญญาศร ถือหุ้น 9.74% และ พินิจพร ดารกานนท์ เกษมทรัพย์ ถือหุ้น 0.91% บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิที่เหลือจากการหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและแต่ละบริษัทกำหนดไว้