×

เมืองหลวงแห่งแบรนด์เนมปลอม: เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี กับอาณาจักรของแก๊งมาเฟียที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

15.04.2024
  • LOADING...

ในขณะที่แบรนด์ดังอย่าง Gucci และ Prada กำลังเตรียมประกาศยอดขายหลักพันล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ แบรนด์เนมปลอมตามท้องถนนในเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี ก็สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับแก๊งมาเฟียเช่นเดียวกัน

 

เนเปิลส์ เมืองใหญ่ทางภาคใต้ของอิตาลี เป็นศูนย์กลางของธุรกิจสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในตลาดมืดของอิตาลีที่มีมูลค่าประมาณ 6-7 พันล้านยูโร (ราว 2.2-2.6 แสนล้านบาท) เป็นแหล่งรวมกระเป๋าถือปลอม แว่นกันแดด เครื่องแต่งกาย และรองเท้า ที่ถูกนำมายัดขายให้กับบรรดานักล่าของถูก

 

“คุณชอบแบรนด์ไหน? สีไหน? รุ่นอะไร?” พ่อค้าคนหนึ่งเร่ร่อนขายของอย่างไม่ย่อท้อใน ‘ตลาดสินค้าปลอม’ ที่แผ่ขยายไปตามตรอกซอกซอยใกล้กับสถานีรถไฟกลาง บรรดาพ่อค้าหอบหิ้วถุงพลาสติกสีน้ำเงินขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าที่มีตั้งแต่หมวกเบสบอลของ Gucci, กระเป๋าสตางค์ Fendi, เข็มขัด Hermès และกล่องรองเท้า Louis Vuitton สีส้มสด สินค้าทั้งหมดถูกวางขายบนโต๊ะพับในราคาที่ถูกกว่าต้นฉบับหลายเท่าตัว

 

สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นปลอม ของเล่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร หรือแม้แต่ยารักษาโรค ประเทศกลุ่ม OECD ซึ่งเป็นองค์กรด้านการค้าระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเมินว่า สินค้าปลอมมีสัดส่วนถึง 2.5% ในการค้าโลก

 

อิตาลีซึ่งเป็นบ้านเกิดของแบรนด์แฟชั่นชั้นนำจำนวนมาก ถือเป็นผู้ครองแชมป์ในด้านการยึดของปลอมในสหภาพยุโรป โดยในรายงานของ EU เมื่อเดือนพฤศจิกายนระบุว่า ในปี 2022 ที่ผ่านมา ของปลอมที่ตำรวจทำการยึดกว่า 63% มาจากอิตาลี

 

เนเปิลส์เป็นที่ที่ธุรกิจสินค้าปลอมเจริญงอกงามจนขยายขอบเขตได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ได้ตำแหน่งเมืองหลวงแห่งสินค้าปลอมของยุโรปอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เมืองแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมในกระบวนการผลิตและซัพพลายเชนของวงการสินค้าแฟชั่นปลอมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บสินค้า การกระจายสินค้า และการขาย ซึ่งทั้งหมดนี้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ Camorra แก๊งมาเฟียท้องถิ่น

 

หลายคนอาจจะมองว่าสินค้าปลอมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่การที่กลุ่มมาเฟียเข้ามาพัวพันกับธุรกิจประเภทนี้ทำให้มีการบังคับใช้กฎหมายให้รัดกุมขึ้นเพราะ “สินค้าปลอมถือเป็นสัญญาณเตือนอันตราย มันเชื่อมโยงไปถึงอาชญากรรมที่ร้ายแรงกว่า” Lieutenant Colonel Giuseppe Evangelista หัวหน้าแผนกปฏิบัติการในเนเปิลส์ของ Guardia di Finanza หรือหน่วยงานตำรวจอาชญากรรมทางการเงินของอิตาลี ระบุ

 

ถึงแม้จะทำกำไรได้น้อยกว่าการขายยาเสพติด แต่สินค้าปลอมเป็นแหล่งรายได้ที่ดี เป็นช่องทางให้มาเฟียฟอกเงิน และมีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยหากถูกจับโทษจะเบากว่าอาชญากรรมอันตรายประเภทอื่น  

 

“แก๊งเหล่านี้มีฐานลูกค้าอยู่แล้ว จากเหล่านักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาบนท้องถนน เมื่อสินค้าถูกซื้อไปสุดท้ายเงินก็เข้ากระเป๋ามาเฟีย” Evangelista กล่าว

 

ตำรวจเนเปิลส์ทำการตรวจยึดเป็นระยะๆ และจำนวนที่ยึดได้ก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น การบุกทลายโรงงานผลิตสินค้าปลอมเกี่ยวกับกีฬาในเดือนกุมภาพันธ์ มีการยึดแบนเนอร์ ผ้าพันคอ และหมวกปลอมของสโมสรฟุตบอล Napoli นับหลายพันชิ้น ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทยของอิตาลีระบุว่า ระหว่างปี 2018-2022 ตำรวจเนเปิลส์ได้ยึดของปลอมไปเกือบ 100 ล้านชิ้น กินมูลค่ากว่า 470 ล้านยูโร (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) หรือคิดเป็นประมาณ 14% ของมูลค่าสินค้าปลอมทั้งหมดที่ยึดได้ในอิตาลีในช่วงระยะเวลาเดียวกัน

 

“ในเมืองนาโปลี (ธุรกิจ) ของปลอมนั้นเป็นภาคเศรษฐกิจคู่ขนานกับสินค้าจริง ภายใต้การบริหารจัดการของกลุ่มมาเฟียทั้งในอิตาลีและจากต่างประเทศ” รายงานของรัฐบาลเมื่อปี 2021 ระบุ โดยเรียกเนเปิลส์ว่าเป็น ‘ศูนย์รวมของการผลิตสินค้าปลอมระดับคุณภาพ’

 

มรดกตกทอดด้านการตัดเย็บเครื่องแต่งกายด้วยมือและงานเครื่องหนัง ท่าเรือสินค้าระหว่างประเทศ อัตราว่างงานที่สูง และแรงงานต่างชาติที่ทะลักเข้ามา ล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมนี้ อีกทั้งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หย่อนยานต่อกฎระเบียบก็เป็นส่วนสำคัญ

 

สินค้าส่วนใหญ่ที่นำเข้ามาจะมาจากจีนหรือตุรกี บรรดานักปลอมสินค้าจะเลือกใช้ท่าเรือในสหภาพยุโรปที่พลุกพล่าน อย่างเช่น ท่าเรือร็อตเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ หรือท่าเรือที่มีการตรวจตราเข้มงวดน้อยกว่าอย่างในกรีซหรือบัลแกเรีย ซึ่งจากท่าเรือเหล่านี้ สินค้าปลอมจะถูกขนย้ายทางบกไปยังอิตาลี

 

เมื่อของมาถึงภูมิภาคกัมปาเนีย ซึ่งอยู่รอบๆ เมืองเนเปิลส์ จะมีขั้นตอนการตกแต่งผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายภายในโรงงานที่ใช้แรงงานผิดกฎหมายราคาถูก ส่วนป้ายผลิตภัณฑ์มักจะจัดส่งแยกกัน และจะถูกเย็บติดเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อทำให้ยากต่อการตรวจสอบของปลอมจากศุลกากร

 

นอกเหนือจากนั้น แก๊งมาเฟียยังควบคุมด้านการจัดจำหน่ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขายตรงผ่านเครือข่ายของตนเอง หรือข่มขู่เจ้าของร้านค้าให้รวมของปลอมเข้าไปขายรวมกับสินค้าแท้

 

จากการสืบสวนของตำรวจเมื่อปี 2022 พบว่า พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดของเนเปิลส์จะจ่ายเงินให้กับมาเฟียสูงถึงสัปดาห์ละ 200 ยูโร (ประมาณ 7,200 บาท) เพื่อให้สามารถตั้งแผงขายได้ หรืออาจถูกบังคับให้รับของปลอมไปขาย

 

วงจรสินค้าปลอมมีผลกระทบทางลบอย่างมหาศาลต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการลดลงของความต้องการสินค้าของแท้ การสูญเสียตำแหน่งงาน และภาษีที่เล็ดลอดไป โดยการสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสินค้าปลอมอยู่ที่ประมาณ 1.7 หมื่นล้านยูโร (ราว 6.1 แสนล้านบาท)

 

นอกจากนั้นยังมีผลเสียอื่นๆ อีกหลายประการ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขกล่าวว่า สาเหตุของการเกิดไฟไหม้เป็นจำนวนหลายร้อยครั้งในเนเปิลส์มาจากการเผาทำลายเศษผ้าเหลือใช้จากกระบวนการทำเสื้อผ้าหรือรองเท้าปลอมนั่นเอง

 

บรรดาบริษัทแบรนด์เนมยักษ์ใหญ่ยอมทุ่มเงินหลายล้านเพื่อต่อสู้กับสินค้าปลอม ตามที่ระบุในเว็บไซต์ Louis Vuitton แค่ในปี 2017 เพียงปีเดียว บริษัทต้องทำการยื่นฟ้องคดีละเมิดลิขสิทธิ์กว่า 38,000 คดีทั่วโลก

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X