อิตาลีเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และเสียชีวิตมากที่สุดรองจากจีนแผ่นดินใหญ่ ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,149 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 631 ราย ภายในระยะเวลาราว 2 สัปดาห์ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 5% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 3-4%
ทำไมสถานการณ์ในอิตาลีจึงเลวร้าย ตัวเลขผู้ป่วยพุ่งสูง
โควิด-19 อาจระบาดโดยที่ไม่รู้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม
ทางการอิตาลียืนยันผลตรวจพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เป็นชายวัย 38 ปี ที่อาศัยในเมืองโคโดนโญ แคว้นลอมบาร์เดีย ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งเขาไม่เคยมีประวัติเดินทางไปจีนมาก่อน ผู้ติดเชื้อรายนี้เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลภายในเมืองหลังจากมีอาการป่วยก่อนหน้านี้ 3 วัน
ในวันที่ยืนยันผลตรวจ เขาได้แพร่เชื้อไปยังภรรยา แพทย์ และพยาบาล รวมถึงผู้ป่วยหลายคน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสงสัยว่า ผู้ที่เป็นพาหะของไวรัสอาจเดินทางไปยังอิตาลีตั้งแต่ช่วงปลายมกราคมแล้ว ก่อนที่จะพบผู้ติดเชื้อรายแรก และอาจเกิดวงจรการระบาดขึ้นตั้งแต่ช่วงนั้น และก่อนที่พบผู้ติดเชื้อ ยังมีรายงานว่าพบกรณีของผู้ป่วยปอดอักเสบจำนวนมากที่โรงพยาบาลในเมืองโคโดนโญด้วย
รัฐบาลอิตาลีเตรียมพร้อมรับมือการระบาดหรือไม่?
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอิตาลี เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้รัฐบาลอิตาลีต้องออกมาตรการอย่างกะทันหันในการควบคุมและป้องกัน
ช่วงหนึ่งเดือนก่อนที่จะพบผู้ติดเชื้อรายแรก ทางกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่แบนเที่ยวบินที่เดินทางทั้งเข้าและออกจากจีน แต่เป็นไปได้ว่าอาจมีผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้าประเทศ โดยต่อเที่ยวบินมาจากประเทศอื่น และไม่เปิดเผยประเทศต้นทางว่ามาจากจีน ทำให้การแพร่ระบาดอาจเกิดขึ้น โดยที่รัฐบาลอิตาลียังไม่ทันเตรียมตัว และดำเนินการรับมือใดๆ อย่างจริงจัง
อิตาลีมีประชากรสูงอายุจำนวนมาก
อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พุ่งสูงในอิตาลี เป็นผลจากข้อเท็จจริงที่ว่าอิตาลีเป็นประเทศที่มีประชากรสูงอายุมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น โดยมีสัดส่วนผู้สูงอายุถึง 22.8% จากจำนวนประชากรทั้งหมดกว่า 60 ล้านคน โดยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในอิตาลี ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ
ชาวอิตาลีเป็นคนชอบเข้าสังคม ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ศาสตราจารย์มารินา เดลลา จุสตา ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเรดดิง ชี้ว่าปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว มาจากวิถีชีวิตของชาวอิตาลีที่ชื่นชอบการเข้าสังคม และมีวัฒนธรรมในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อีกทั้งมีการสัมผัสใกล้ชิด ทั้งกอดและหอมทักทายกันมากกว่าประเทศอื่น
“พื้นที่ทางกายภาพระหว่างบุคคลในอิตาลีนั้นสั้นกว่ามากเมื่อเทียบกับอังกฤษ พวกเขามีพฤติกรรมในการจูบทักทายกัน มีการติดต่อทางกายภาพระหว่างผู้คนที่สูงกว่าประเทศใดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และชอบการทำกิจกรรมกลางแจ้งมากกว่าประเทศอื่นในยุโรปในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วงที่สภาพอากาศยังค่อนข้างหนาว” ศาสตราจารย์เดลลา จุสตา กล่าว
การเคลื่อนย้ายระหว่างภูมิภาคยังไม่หยุดนิ่ง แม้สั่งปิดโรงเรียน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ารัฐบาลอิตาลีล้มเหลวชัดเจนในการดำเนินมาตรการแทรกแซงขั้นต้น เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
โดยในช่วงที่รัฐบาลเริ่มสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงที่พบการแพร่ระบาดจำนวนมากเช่น แคว้นลอมบาร์เดียเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่จำนวนมากไม่ได้มองว่ามาตรการให้หยุดเรียนเพื่อกักตัวเองของทางการนั้นเป็นเรื่องจริงจังมากนัก หลายครอบครัวยังพาลูกๆ หลานๆ เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งเทือกเขาและทะเลในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ เพราะคิดว่าการพาเด็กๆ ออกไปห่างจากจุดที่พบการระบาด จะทำให้เด็กๆ นั้นปลอดภัย แต่พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาด และเป็นอันตรายอย่างมาก
มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศจะได้ผลดีไหม?
สำหรับมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศที่รัฐบาลเพิ่งประกาศใช้นั้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ในการควบคุมการระบาดได้เพียงระยะสั้นๆ โดยศาสตราจารย์จอห์น เอ็ดมุนด์ส จากสถาบันสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยลอนดอน ชี้ว่าหากรัฐบาลอิตาลี ไม่สามารถดำเนินมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่มีผลในระยะยาว สิ่งที่พวกเขาทำได้ทั้งหมด คงเป็นเพียงการชะลอการระบาดไว้ชั่วคราวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่ามาตรการในตอนนี้นั้นดีเยี่ยมและเหมาะสมแล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือรัฐบาลอิตาลีนั้นล่าช้ามากกว่าที่จะเริ่มดำเนินการ
เศรษฐกิจอิตาลีจะได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองทั่วประเทศอย่างไร
มาตรการปิดเมืองทั่วประเทศ อาจฉุดเศรษฐกิจอิตาลีเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยก่อนการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทาง Berenberg Bank ธนาคารเพื่อการลงทุนในเยอรมนี ประเมิน GDP ของอิตาลีว่าอาจหดตัวราว 0.3% แต่จากสถานการณ์ล่าสุด ทำให้มีการประเมินว่า GDP ของอิตาลีอาจหดตัวถึง 1.2% ในปีนี้
ทั้งนี้ แคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดมากที่สุด มีสัดส่วน GDP คิดเป็น 1 ใน 5 ของทั้งประเทศ ส่วนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักก็มีสัดส่วนคิดเป็น 13% ของ GDP ของอิตาลี ซึ่งเป็นไปได้ว่าผลจากการระบาดนี้อาจทำให้อิตาลีสูญเสียรายได้กว่า 8,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดนักท่องเที่ยวหายไปกว่า 32 ล้านคน ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจอิตาลีจะส่งผลเป็นลูกโซ่ไปยังประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป และอาจถึงขั้นก่อให้เกิดภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศกลุ่มยูโรโซนเลยทีเดียว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.itv.com/news/2020-03-10/coronavirus-why-is-italy-the-second-worst-affected-country-after-china/?fbclid=IwAR1hfXLCEWMi-j_xI_r1mqFf3RId6-zAmefbEOT2kzlCU-A_f46ukUAbyvI
- time.com/5799586/italy-coronavirus-outbreak/?fbclid=IwAR1cYrCbJY0H29Ae22yvKa_Ia8HU1LLeoMj44QFTxBRiUMmGEDm1L-9ib7w
- www.statista.com/statistics/785104/elderly-population-in-italy/