×

ใครคือ วินแดห์ม คลาร์ก? รู้จักเจ้าของกอล์ฟเมเจอร์ ‘ยูเอสโอเพน’ คนล่าสุด

20.06.2023
  • LOADING...
Wyndham Clark

เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 มิถุนายน) เราได้รู้ผลการแข่งขันในศึกกอล์ฟเมเจอร์รายการที่ 3 ของปี ในศึกยูเอสโอเพน ที่ปีนี้ย้ายกลับมาแข่งขันกันที่มลรัฐแคลิฟอร์เนียอีกครั้ง หลังจากเมื่อ 2 ปีก่อนเพิ่งมาแข่งขันกันที่แคลิฟอร์เนียทอร์รีย์ไพน์ ในเมืองซานดิเอโก ซึ่งปีนี้มาดวลวงสวิงกันที่แคลิฟอร์เนียอีกครั้ง ณ ลอสแอนเจลิสคันทรีคลับ หรือ LACC ทางตอนใต้ของสังเวียน 

 

อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าแชมป์ในปีนี้ตกเป็นของ วินแดห์ม คลาร์ก โปรกอล์ฟวัย 29 ปีจากเดนเวอร์ โคโลราโด ที่เอาชนะคู่แข่งในรอบสุดท้ายอย่าง รอรี แมคอิลรอย อดีตโปรมือ 1 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ เจ้าของแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2011 ไป 1 สโตรก หลังทำ 4 เบอร์ดี้ เสีย 4 โบกี้ จบอีเวนพาร์ในรอบสุดท้าย ทำให้สกอร์รวมเท่าเดิมที่ 10 อันเดอร์พาร์ ซึ่งเพียงพอที่จะเอาชนะแมคอิลรอยที่จบ 4 รอบด้วยสกอร์ 9 อันเดอร์พาร์ ไปได้

 

การคว้าแชมป์ของคลาร์กในครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้งของโปรชาวอเมริกันในศึกยูเอสโอเพน หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมาแชมป์ตกเป็นของ จอน ราห์ม จากสเปน ในปี 2021 และ แมตต์ ฟิตซ์แพทริก จากอังกฤษ ในปี 2022 

 

สำหรับชื่อของ วินแดห์ม คลาร์ก คงไม่เป็นที่คุ้นหูสักเท่าไรนักสำหรับแฟนๆ ที่ไม่ได้ติดตามวงการกอล์ฟอย่างเหนียวแน่น หรือแม้แต่คนที่ติดตามวงการกอล์ฟมาตลอดก็อาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อของเขาบ่อยๆ ในปีนี้หลังคว้าแชมป์เวลส์ฟาร์โกแชมเปียนชิปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

 

ดังนั้นในคราวนี้ THE STANDARD จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับโปรกอล์ฟวัย 29 ปีที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงในปีนี้เพิ่มกันอีกสักหน่อย

 

 

เรื่องราวที่น่าสนใจของคลาร์กนั่นคือ เขาเป็นคนธรรมดาที่หลงใหลในกีฬากอล์ฟตั้งแต่เด็กจากการแนะนำโดย ลิเซ คลาร์ก แม่ของเขา ในตอนที่เขาอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้น

 

แม้จะเป็นคนแนะนำให้ลูกชายของเธอรู้จักกับกีฬากอล์ฟ แต่ ลิเซ คลาร์ก ไม่ได้มีพื้นเพใดๆ เกี่ยวกับวงการกอล์ฟเลย โดยเธอเคยประกวดนางงามและคว้าตำแหน่ง Miss New Mexico ในปี 1981 หลังจากนั้นเธอทำงานในสายความสวยความงาม โดยตำแหน่งสุดท้ายของเธอคือการเป็นหัวหน้าฝ่ายขายของเครื่องสำอาง Mary Kay

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Wyndham Clark (@wyndhamclark)

 

ลิเซ คลาร์ก สมัยที่คว้าตำแหน่ง Miss New Mexico

 

ลิเซจากลูกชายของเธอไปในวัย 55 ปีเมื่อปี 2013 ด้วยโรคมะเร็งเต้านม เธอจาก วินแดห์ม คลาร์ก ไปตอนที่เขาอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น โดยตอนนั้นเขาเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมาสเตท และเล่นกอล์ฟในระดับคอลเลจไปด้วย

 

วินแดห์มกล่าวถึงการสูญเสียแม่ในตอนนั้นว่า 

 

“ผมเล่นได้ย่ำแย่มาก มีหลายครั้งที่ผมต้องตกรอบคัดเลือกหรือหลุดออกจากการแข่งขัน และผมก็มักจะไดรฟ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าผมจะทำแบบนั้นไปทำไม

 

“ความกดดันจากการเล่นกอล์ฟตอนที่ไม่มีแม่อยู่ที่นั่นและไม่มีคนที่ผมคอยโทรหาได้นั้นยากมากจริงๆ ผมมีช่วงเวลาแบบนั้นหลายครั้ง พลาดการตัดตัวหลายครั้งติดต่อกัน บางครั้งผมรู้สึกว่าเล่นได้ดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรจากมัน เมื่อเป็นแบบนั้นคุณต้องคิดถึงการเดินจากไปอยู่แล้ว”

 

 

ความสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิตครั้งนี้ส่งผลอย่างมากต่อสภาพจิตใจของวินแดห์ม เขาถึงกับคิดจะวางมือจากการเล่นกอล์ฟ แต่หลังจากพูดคุยกับพ่อของเขา แรนดอล คลาร์ก ที่เป็นคนคอยขับเคลื่อนความสนใจเรื่องกอล์ฟให้เขามาตลอดนับตั้งแต่แม่ของเขาแนะนำให้รู้จักกีฬาชนิดนี้ ก็ได้ข้อสรุปว่าเขาควรเปลี่ยนบรรยากาศ

 

วินแดห์ม คลาร์ก ตัดสินใจทรานส์เฟอร์ไปเรียนยังที่ใหม่อย่างมหาวิยาลัยออริกอน อีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงทางด้านกีฬาในสหรัฐฯ ไม่แพ้กับโอคลาโฮมาสเตท แต่ต่างกันตรงที่มลรัฐออริกอนเป็นมลรัฐที่สงบและมีอากาศที่ดีกว่า ทำให้เขามีเวลาคิดทบทวนเรื่องต่างๆ ก่อนตัดสินใจเดินทางในสายกอล์ฟต่อไป

 

การย้ายไปยังออริกอนตามคำแนะนำของพ่อ นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างมาก เพราะที่นี่วินแดห์มประสบความสำเร็จอย่างมากในการเล่นกอล์ฟ เขาคว้าแชมป์ Pac-12 Championship ในปี 2017 และยังได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีในปีนั้น วินแดห์มรู้สึกขอบคุณพ่อของเขาเสมอที่มีส่วนให้เขาเดินต่อไปในทางสายนี้ได้

 

คลาร์กเล่าถึงพ่อหลังจบศึกยูเอสโอเพน 

 

“แม่ของผมเป็นคนพาผมไปเล่นกอล์ฟครั้งแรก แต่พ่อของผมเป็นคนที่พาผมไปสู่วงการกอล์ฟอย่างแท้จริง หลังจากผมเริ่มเล่นกอล์ฟตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ทุกครั้งที่ผมไปตีกอล์ฟตั้งแต่อายุยังน้อย จะเป็นพ่อที่อยู่กับผมเสมอ”

 

แม้ แรนดอล คลาร์ก พ่อของวินแดห์ม จะทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน แต่การที่เขาสามารถผลักดันลูกชายให้อยู่ในวงการกอล์ฟอาชีพเสมอมาได้อย่างถูกทาง เพราะว่าเขาเองนั้นเคยเป็นนักเทนนิสอาชีพมาก่อน แต่น่าเสียดายที่แรลดอลต้องเจอกับอาการบาดเจ็บหนัก จนต้องยุติอาชีพการเล่นของเขาลง

 

“พ่อของผมเป็นนักเทนนิสอาชีพมาก่อน เขาเคยเป็นนักกีฬา ดังนั้นเขาจึงเข้าใจและปลูกฝังให้ผมทำงานหนักและมีระเบียบวินัย และผมรู้สึกว่าผมได้รับความร้อนแรงจากเขามามากทีเดียว พ่อของผมคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ หวังว่าวันนี้จะเป็นวันพ่อที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา”

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Wyndham Clark (@wyndhamclark)

 

วินแดห์ม คลาร์ก โพสต์ภาพกับครอบครัว 

พร้อมข้อความว่า ‘เวลาของครอบครัวคือเวลาที่สำคัญที่สุด’

 

สิ่งที่วินแดห์มให้ความสำคัญไม่แพ้กับการเล่นกอล์ฟอาชีพของเขาคือครอบครัวของเขา ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าการสูญเสียแม่ไปทำให้เขาให้ความสำคัญกับคนใกล้ชิดเสมอมา ทั้งพี่สาวของเขาอย่าง คริสทิน คลาร์ก และน้องชายที่อ่อนกว่า 4 ปีอย่าง เบรนแดน คลาร์ก โดยเขาเคยกล่าวว่า “เวลาของครอบครัวคือเวลาที่สำคัญที่สุด”

 

แม้จะมีภาพครอบครัวปรากฏบ่อยครั้งในพื้นที่โซเชียลมีเดียของเขา อย่างใน Twitter หรือ Instagram แต่วินแดห์มกลับให้ความสำคัญกับชีวิตส่วนตัวของเขาในการสัมภาษณ์และบนโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก นั่นทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้น้อยมากทีเดียว

 

เขาไม่ได้โพสต์เกี่ยวกับการมีแฟนหรือคนที่คบหาดูใจเลย ปัจจุบันข้อมูลที่เรารู้ก็มีแค่เพียงว่าเขาไม่ได้แต่งงานและไม่มีลูก แม้ไม่นานมานี้เขาจะโพสต์รูปถ่ายกับ จูเลีย เคมมลิง นักกอล์ฟหญิงและโค้ชกอล์ฟจากมหาวิทยาลัยควินนิเปียก ในมลรัฐคอนเนคติคัต แต่สถานะความสัมพันธ์ของพวกเขายังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัดในปัจจุบัน

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Wyndham Clark (@wyndhamclark)

 

วินแดห์ม คลาร์ก โพสต์ภาพคู่กับ จูเลีย เคมมลิง

 

จากความระมัดระวังในการพูดและแสดงออกเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่โลว์โปรไฟล์มากที่สุดคนหนึ่ง อ้างอิงจากเว็บไซต์ Spotrac ที่ไปขุดค้นข้อมูลของวินแดห์มมา ทำให้เราได้รู้ว่า ปัจจุบันเขายังคงอาศัยอยู่ในคอนโดราคาเพียง 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.4 ล้านบาท ในสกอตส์เดล มลรัฐแอริโซนา ทั้งที่เขาสามารถทำเงินจากการเป็นโปรกอล์ฟอาชีพได้มากกว่าปีละ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 382 ล้านบาท

 

แต่ดูเหมือนรายได้ของคลาร์กที่เฉลี่ยในปีก่อนๆ จะเทียบไม่ได้เลยกับความสำเร็จที่เขาทำได้ในปีนี้ หลังจากที่เขาคว้าแชมป์ 2 รายการใหญ่ อย่างเวลส์ฟาร์โกแชมเปียนชิปและยูเอสโอเพนที่มีเงินรางวัลรวมถึงรายการละ 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 695 ล้านบาท และผู้ชนะจะได้ส่วนแบ่งถึง 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 125 ล้านบาท

 

 

นอกจากนี้สิ่งที่น่าจะเปลี่ยนชีวิตของวินแดห์มไปอีกอย่างคือ การที่เขาก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับท็อป 50 ของโลกภายในปีนี้ โดยหลังจากคว้าแชมป์กอล์ฟยูเอสโอเพนได้สำเร็จ เขาจะทำอันดับขึ้นไปรั้งมือ 32 ของโลกทันที ทั้งที่เมื่อจบปี 2022 อันดับโลกเขายังรั้งมือ 163 ของโลกอยู่เลย และหากย้อนกลับไปเมื่อจบปี 2021 เขาเป็นเพียงโปรกอล์ฟมือ 249 เท่านั้น

 

นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ชีวิตของ วินแดห์ม คลาร์ก อาจจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และเราอาจได้เห็นเขาบ่อยขึ้นในทัวร์นาเมนต์รายการใหญ่ๆ ของพีจีเอทัวร์ รวมไปถึงกอล์ฟเมเจอร์รายการต่างๆ ด้วย

 

และโปรกอล์ฟวัย 29 ปีรายนี้อาจเป็นโปรกอล์ฟคนใหม่ที่แฟนๆ กอล์ฟอาจจะต้องจดจำเขาหลังจากนี้มากขึ้นก็เป็นได้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X