พลิกปูม บิล ฮวัง เทรดเดอร์ชื่อดังที่อยู่เบื้องหลังการถูกบังคับขายหุ้นล็อตใหญ่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดการเงินโลกกลับเข้าสู่โหมดการเฝ้าระวังอีกครั้ง หลังจากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายการ ‘บิ๊กล็อต’ ขนาดมหึมากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 6 แสนล้านบาท ที่เกิดจากการถูกบังคับขายหุ้น ซึ่งถือเป็นมูลค่าที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายการขายดังกล่าวมาจากสถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก เช่น Goldman Sachs, Morgan Stanley, Credit Suisse และ Nomura ซึ่งการถูกบังคับขายขนาดใหญ่ในล็อตนี้ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะซ้ำรอยวิกฤตการเงินในอดีต
ก่อนที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะแพนิกจากสถานการณ์ดังกล่าวไปมากกว่านี้ ก็เริ่มมีรายงานข่าวออกมาเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรอบนี้มาจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท Archegos Capital Management ซึ่งเป็นกองทุนเฮดจ์ฟันด์จากสหรัฐฯ และไม่สามารถหาหลักประกันมาวางเพิ่มได้ (Margin Call) ทำให้ถูกบังคับขายหุ้นออกมา โดยกองทุนนี้มีเทรดเดอร์ชื่อดังคือ บิล ฮวัง เป็นเจ้าของ
บิล ฮวัง นับเป็นเทรดเดอร์ชื่อดังในวงการตลาดทุน เขาเคยถูกทางการสหรัฐฯ ลงโทษมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2012 ในข้อหาใช้ข้อมูลภายในซื้อขายหุ้น (Insider Trading) ทำให้เขาต้องปิดบริษัทเฮดจ์ฟันด์ที่เคยบริหารอยู่ในขณะนั้น และต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์
ภายหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น บิล ฮวัง ได้นำเงินส่วนตัวที่ยังเหลืออยู่จัดตั้งเฮดจ์ฟันด์ขึ้นมาใหม่ ชื่อ Archegos Capital Management ซึ่งเขาใช้เวลาไม่กี่ปีก็ทำให้ Archegos ขึ้นมาเป็นหนึ่งในเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ของโลก ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการระดมเงินจากบรรดาเศรษฐี กองทุนนี้จึงไม่มีประชาชนทั่วไปเข้ามาเกี่ยวข้อง
ในช่วงแรกที่ บิล ฮวัง เริ่มก่อตั้ง Archegos และกลับมาโลดแล่นอีกครั้ง โบรกเกอร์อย่าง Goldman Sachs ยังไม่ได้เข้าไปดีลกับ บิล ฮวัง แต่อย่างใด เนื่องจากประวัติการใช้ Insider Trading ในช่วงก่อนหน้านี้
จนกระทั่งปี 2018 ที่ผ่านมา ซึ่งกองทุน Archegos ได้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมีขนาดใหญ่กว่าเฮดจ์ฟันด์อื่นๆ อีกหลายแห่ง ขณะเดียวกันคู่แข่งของ Goldman Sachs ที่ยังคงทำธุรกิจกับ Archegos ก็ได้รับผลตอบแทนอย่างงดงามจากค่าคอมมิชชันการซื้อขายจำนวนมาก ทำให้ในท้ายที่สุด Goldman Sachs จำต้องเข้าไปดึง Archegos มาเป็นลูกค้าในที่สุด
สำหรับประวัติของ บิล ฮวัง อพยพจากเกาหลีใต้มาอยู่ที่สหรัฐฯ หลังจากเรียนจบมัธยมศึกษา และเข้าเรียนต่อใน UCLA ก่อนจะจบปริญญาโทด้าน MBA จากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน
ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ผลักดันให้ บิล ฮวัง มุ่งมั่นในการลงทุนเป็นผลมาจากเรื่องของ ‘ศาสนา’ ซึ่งในปี 2018 บิล ฮวัง เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Kukmin Ilbo ไว้ว่า “ผมยอมลดความมั่งคั่งของตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่พระเจ้ามุ่งหวัง ผมทำมันเพราะว่าผมศรัทธาในพระเจ้ามากกว่าเงิน”
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง: