×

When the Phone Rings เสน่ห์ซีรีส์เกาหลีที่บางทีก็ลืมไปแล้ว

02.12.2024
  • LOADING...
When the Phone Rings

HIGHLIGHTS

  • When the Phone Rings นับเป็นซีรีส์เกาหลีที่มาแรงมากๆ เพราะสามารถคว้าเรตติ้งในตอนเปิดตัวได้ถึง 5.5% ในเกาหลีใต้ ส่วนในไทยก็ขึ้นอันดับ 1 บน Netflix ในเวลาแค่ 2 วัน ด้วยเรื่องราวโรแมนติกระทึกขวัญชวนติดตาม และการสร้างคาแรกเตอร์ของพระเอกนางเอกได้อย่างน่าสนใจ ทำให้นึกถึงซีรีส์เกาหลีที่มีเสน่ห์แบบเก่าๆ คือซับซ้อนพอประมาณผสานกับความเมโลดราม่าชวนจิ้นชวนฟินแบบนี้
  • ปัจจุบันซีรีส์เกาหลีกลายเป็นความบันเทิงสามัญประจำบ้านของผู้ชมทั่วโลกไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือเนื้อหาเริ่มเปลี่ยนไปจากแนวรักโรแมนติก เข้าใจง่าย สู่ความหลากหลายแบบไม่มีข้อจำกัด ยิ่งเมื่อดูสถิติ 10 อันดับแรกของซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษของ Netflix ส่วนใหญ่จะเป็นแนวแอ็กชัน ไซไฟ ระทึกขวัญ ไม่ว่าจะเป็น Parasyte: The Grey, A Killer Paradox หรือ The 8 Show จนกลายเป็นภาพลักษณ์ของซีรีส์เกาหลีใต้ยุคใหม่ ทั้งที่ในอดีตซีรีส์แนวโรแมนติกหรือแนวย้อนยุคได้สร้างฐานแฟนคลับเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา
  • When the Phone Rings เหมือนพาคนดูนั่งรถไฟเหาะ เพราะเป็นแนวจากโรแมนติกลึกลับสู่โรแมนติกคอเมดี้สลับกันไป ภายใต้องค์ประกอบรอบข้างจากปมต่างๆ ที่โรยไว้ระหว่างทาง ทั้งความขัดแย้งของพระเอกในฐานะตัวแทนรัฐบาล ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ภูมิหลังของนางเอก และตัวละครลับที่กำลังค่อยๆ เผยตัวตนออกมา เป็นการผสมผสานระหว่างดราม่าส่วนตัวกับการเมืองได้อย่างน่าสนใจ

 

When the Phone Rings

 

นับเป็นซีรีส์เกาหลีที่มาแรงมากๆ สำหรับ When the Phone Rings เพราะสามารถคว้าเรตติ้งในตอนเปิดตัวได้ถึง 5.5% ในเกาหลีใต้ ส่วนในไทยก็ขึ้นอันดับ 1 บน Netflix ในเวลาแค่ 2 วัน ด้วยเรื่องราวโรแมนติกระทึกขวัญชวนติดตาม และการสร้างคาแรกเตอร์ของพระเอกนางเอกได้อย่างน่าสนใจ ทำให้นึกถึงซีรีส์เกาหลีที่มีเสน่ห์แบบเก่าๆ คือซับซ้อนพอประมาณผสานกับความเมโลดราม่าชวนจิ้นชวนฟินแบบนี้

 

When the Phone Rings สร้างจากเว็บตูนเรื่อง The Number You Have Dialed โดยเข้าไปสำรวจชีวิตของ แพกซาออน (ยูยอนซอก) และ ฮงฮีจู (แชซูบิน) คู่สามีภรรยาที่แต่งงานด้วยเงื่อนไขทางธุรกิจและอำนาจ ทำให้พวกเขาเว้นระยะห่างและอยู่ท่ามกลางความเงียบ เพราะฝ่ายหญิงประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนไม่สามารถพูดได้ อีกทั้งการแต่งงานก็กลายเป็นความลับ ด้วยหน้าที่การงานของฝ่ายชายที่เป็นเหมือนสายล่อฟ้าให้กับรัฐบาล 

 

ซาออนเป็นนักการเมืองเจ้าเสน่ห์ เขาทำงานในตำแหน่งโฆษกของประธานาธิบดี ในขณะที่ฮีจูทำงานเป็นล่ามภาษามือ ความสัมพันธ์อันตึงเครียดดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งฮีจูถูกลักพาตัว โดยคนร้ายใช้โทรศัพท์แปลงเสียงโทรหาซาออนแล้วข่มขู่ว่าจะทำร้ายฮีจู แต่ก็ถูกตอบโต้ด้วยการยั่วโมโหและพูดจาไม่ไยดีต่อชีวิตของฮีจูเลยแม้แต่น้อย ทำให้ฮีจูระเบิดอารมณ์และเผยความลับออกมาว่าเธอพูดได้โดยที่ซาออนไม่รู้ จากเหตุการณ์นั้นฮีจูหนีรอดมาได้พร้อมกับโทรศัพท์แปลงเสียงที่เธอนำมาใช้ปั่นหัวสามีผู้ไม่ไยดีเธอเลย

 

ในความเป็นจริงแล้วซาออนทั้งรักและห่วงฮีจู แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาต้องแสดงทีท่าเย็นชากับเธอ ขณะที่ฮีจูก็เป็นผู้หญิงที่น่าสงสาร คนภายนอกอาจคิดว่าเธอเป็นทายาทธุรกิจสื่อชื่อดัง แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นลูกติดของแม่ที่หนีมาแต่งงานใหม่กับเศรษฐี และกลายเป็นเครื่องมือสานสัมพันธ์กับตระกูลนักการเมืองของซาออนแทนพี่สาวที่หนีการแต่งงานไป เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งคู่จะทลายกำแพงความสัมพันธ์ลงได้ไหม ต้องติดตามกันต่อใน When the Phone Rings

 

 

อย่างที่รู้กันว่าปัจจุบันซีรีส์เกาหลีใต้กลายเป็นความบันเทิงสามัญประจำบ้านของผู้ชมทั่วโลกไปแล้ว สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือเนื้อหาเริ่มเปลี่ยนไปจากแนวรักโรแมนติก เข้าใจง่าย สู่ความหลากหลายแบบไม่มีข้อจำกัด ยิ่งเมื่อดูสถิติ 10 อันดับแรกของซีรีส์ที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษของ Netflix ส่วนใหญ่จะเป็นแนวแอ็กชัน ไซไฟ ระทึกขวัญ ไม่ว่าจะเป็น Parasyte: The Grey, A Killer Paradox หรือ The 8 Show จนกลายเป็นภาพลักษณ์ของซีรีส์เกาหลีใต้ยุคใหม่ ทั้งที่ในอดีตซีรีส์แนวโรแมนติกหรือแนวย้อนยุคได้สร้างฐานแฟนคลับเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา อย่างเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาผู้ชมมากกว่า 90% ที่รับชมซีรีส์เกาหลีใต้แนวโรแมนติกบน Netflix อยู่นอกเกาหลีใต้ และ 6 ใน 10 เรื่องในอันดับรายการทีวีที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษของ Netflix ก็อยู่ในประเภทโรแมนติก 

 

 

When the Phone Rings เหมือนถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์นั้น ด้วยการวางคาแรกเตอร์ของซาออนให้เป็นพระเอกท่าทีเย็นชาทว่าคลั่งรัก แม้ในอีพีแรกจะเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมลึกลับ แต่เมื่อเข้าสู่อีพีที่ 2 โทนของเรื่องก็ใส่จังหวะคอเมดี้เข้ามาแบบ ‘ลุคที่สร้างกับร่างที่เป็น’ ของตัวละคร คือทำทุกอย่างขัดกับความต้องการของตัวเอง ซึ่งคนดูมักโดนตกได้ง่ายๆ ในซีรีส์เกาหลีใต้หลายๆ เรื่อง 

 

ส่วนหนึ่งก็ต้องยกประโยชน์จากการเลือกยูยอนซอก พระเอกที่ผ่านบทบาทหลากหลายในซีรีส์ดังอย่าง Hospital Playlist, Mr. Sunshine, The Interest of Love ทำให้เขาถ่ายทอดบุคลิกของชายหนุ่มที่ต้องต่อสู้กับปีศาจในตัวเอง และรับมือกับแรงกดดันภายนอกที่แม้ดูเยือกเย็นแต่ก็ขัดแย้งได้อย่างดี

 

 

ส่วนแชซูบิน นักแสดงจาก The Fabulous ที่มารับบทฮีจู ก็ถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการใช้ภาษามือผสมผสานกับภาษากายที่สื่อถึงอารมณ์ซาบซึ้ง จริงใจ และพร้อมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อปั่นหัวพระเอกทางโทรศัพท์ ที่สำคัญคือเคมีระหว่าง 2 นักแสดงเรียกว่าใช้ได้ เพราะแค่ 4 อีพีก็ทำให้คนดูติดกันงอมแงมแล้ว 

 

ทางด้านบทของ When the Phone Rings ก็เหมือนพาคนดูนั่งรถไฟเหาะ เพราะเป็นแนวจากโรแมนติกลึกลับสู่โรแมนติกคอเมดี้สลับกันไป ภายใต้องค์ประกอบรอบข้างจากปมต่างๆ ที่โรยไว้ระหว่างทาง ทั้งความขัดแย้งของพระเอกในฐานะตัวแทนรัฐบาล ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัว ภูมิหลังของนางเอก และตัวละครลับที่กำลังค่อยๆ เผยตัวตนออกมา เป็นการผสมผสานระหว่างดราม่าส่วนตัวกับการเมืองได้อย่างน่าสนใจ โดยผู้กำกับแอบสปอยล์เล็กๆ ว่าในตอนแรกอาจดูเหมือนเป็นความสัมพันธ์แบบรักๆ เกลียดๆ แต่จริงๆ แล้วซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักที่คงอยู่มานานกว่า 20 ปี แปลว่า When the Phone Rings จะยังคงใช้มุกรักแรกในวัยเด็กที่เก็บซ่อนไว้ในใจตัวละคร 

 

 

อย่างไรก็ดี บทยังมีจุดอ่อนทั้งเรื่องความสมเหตุสมผลและความเป็นไปได้ในหลายๆ อย่าง ทั้งพฤติกรรมของนางเอกที่ถ้าไม่ได้อยู่ในกรอบของซีรีส์รักโรแมนติกก็ถือว่าน่าขนลุกอยู่เหมือนกัน รวมทั้งความสัมพันธ์ซับซ้อนไปมาของ 2 ตระกูลและชะตากรรมของตัวละครก็ค่อนข้างน้ำเน่าทีเดียว ซึ่งเอาเข้าจริงเรื่องแบบนี้ก็ตอบโจทย์ความบันเทิงของคนดู และเป็นสิ่งที่ปูทางให้ซีรีส์เกาหลีใต้เป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ 

 

โดยสรุป When the Phone Rings เป็นซีรีส์น่าติดตามที่ผสมผสานทั้งความโรแมนติก ลึกลับ สลับกับคอเมดี้พอกรุบกริบ ในแบบฉบับของซีรีส์เกาหลีใต้ที่หลายคนติดใจ และสำคัญมันช่วยสร้างเสน่ห์ให้ตัวละคร โดยเฉพาะพระเอกที่เตรียมเป็นสามีแห่งชาติคนใหม่เอาไว้ได้เลย 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X