×

5 สิ่งที่ทำให้คนขายยิ้มได้ คนซื้อแฮปปี้ เมื่อเป็นเจ้าของ NFT สักชิ้น

16.03.2022
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

  • ตัวชี้วัดที่สำคัญมากในการขายคอลเล็กชัน NFT คือ Utility หรือประโยชน์การใช้งาน เพราะสิ่งที่จะทำให้คนกล้าซื้อคือความพิเศษของ Utility ซึ่งหากไม่มีก็อาจหาคนซื้อยาก
  • Utility ที่กำลังนิยมอีกอันก็คือ NFT ที่ซื้อแล้วเอาไปใช้ในเกมคริปโตได้ ซึ่งความนิยมของเกมจะทำให้ NFT มีราคาแพงขึ้น เช่น Worldwide Webb Land นั้นเป็นเกมคริปโตที่ยังห่างไกลจากความเสร็จสมบูรณ์ แต่คอลเล็กชันคอนโด NFT ของเกมกลับขายหมดเกลี้ยง 

รู้หรือไม่ NFT ไม่ได้แค่เอาไว้เก็งกำไรหรือโชว์สถานะ แต่ยังมีการใช้งานได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ซึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญมากในการขายคอลเล็กชัน NFT คือ Utility หรือประโยชน์การใช้งาน เพราะสิ่งที่จะทำให้คนกล้าซื้อคือความพิเศษของ Utility ซึ่งหากไม่มีก็อาจหาคนซื้อยาก ถ้าอย่างนั้นเรามาดูกันว่า Utility ต่างๆ ที่มีอยู่ตอนนี้นั้น มีอะไรให้เห็นบ้าง 

 

  1. การให้โทเคน

 

พูดง่ายๆ คือเหมือนเอาเงินไปฝากธนาคาร แต่ก้อนเงินนั้นคือ NFT ซึ่งหากเราเอาไป ‘Stake’ หรือเอาไปฝากไว้โดยไม่ให้มีการซื้อขาย ทางโปรเจกต์จะมีการแบ่งโทเคนมาให้เราแบบรายวัน ซึ่งสามารถเอาไปแลกเป็นเงินจริงๆ ได้ แต่จะแลกได้เท่าไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับราคาของโทเคน และความนิยมใน NFT โปรเจกต์นั้น กลไกนี้เกิดขึ้นได้ เพราะการเอา NFT ไปฝากเป็นการ Limit Supply จึงทำให้ราคา NFT ที่ซื้อขายอยู่มีมูลค่าสูงขึ้น ราคาโทเคนจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ตัวอย่างง่ายๆ คือ Genesis CyberKongz ที่ให้โทเคน $BANANA กับนักสะสม เป็นต้น

 

  1. Breeding 

 

แปลไทยคือการผสมพันธุ์ ซึ่งเป็นกลไกในการเพิ่ม Supply ด้วยการเอาตัวละคร NFT สองตัวมาจับคู่ผสมกันให้ออกมาเป็น NFT ชิ้นใหม่ ที่มีคุณลักษณะต่างจากพ่อและแม่ ซึ่ง Breeding สร้าง NFT ตัวใหม่ที่เอาไปขายได้ และนอกจากการผสมพันธุ์จาก NFT ที่เราสะสมเองแล้ว เรายังเอาของเราไปผสมกับของคนอื่นได้อีกด้วย ตัวอย่างของโปรเจกต์ที่มีการผสมพันธุ์เป็นจุดขายก็คือ CryptoKitties ซึ่งผู้สะสมสามารถเอาแมวที่แสนน่ารักมาผสมกันได้ไม่รู้จบ 

 

  1. Burning หรือ การเผา 

 

การเผานั้นเป็นเหมือนกับ Staking ซึ่งคือการ Limit Supply แต่ต่างกันตรงที่เมื่อเผาไปแล้ว NFT จะหายไปตลอดกาล เพราะฉะนั้นนักสะสมที่ถูกเผา NFT จะต้องได้รับค่าตอบแทนที่มีมูลค่ามากกว่า NFT ชิ้นนั้นๆ  

 

  1. Game 

 

Utility ที่กำลังนิยมอีกอันก็คือ NFT ที่ซื้อแล้วเอาไปใช้ในเกมคริปโตได้ ซึ่งความนิยมของเกมจะทำให้ NFT มีราคาแพงขึ้น เช่น Worldwide Webb Land นั้นเป็นเกมคริปโตที่ยังห่างไกลจากความเสร็จสมบูรณ์ แต่คอลเล็กชันคอนโด NFT ของเกมกลับขายหมดเกลี้ยง นั่นก็เพราะคนเชื่อว่า NFT ที่เอาไปใส่ในเกมจะมีมูลค่าสูงขึ้นจากความสำเร็จของเกม และการมี Utility ที่ล้ำกว่า 

 

  1. DAO  

 

คำที่เราได้ยินกันบ่อยๆ แต่ไม่เข้าใจคือ DAO หรือ Decentralized Autonomous Organization ซึ่งก็คือกลุ่มแก๊งจากโปรเจกต์ NFT ที่คนสะสมมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้ และนำ้หนักการโหวตนั้นขึ้นอยู่กับจำนวน NFT ที่สมาชิกคนนั้นเป็นเจ้าของ ข้อดีของการเป็นส่วนหนึ่งของ DAO คือการมีสิทธิ์ตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ ของโปรเจกต์ เช่น จะแบ่งเงินกองกลางอย่างไร เป็นต้น  

 

จะเห็นได้ว่า NFT นั้นมีเรื่องของเศรษฐศาสตร์อยู่เบื้องหลังมากพอสมควร และต้องผ่านการคำนวณและเขียนโค้ดอย่างหนัก เพื่อกำหนด Utility ที่จะมาแข่งกับคอลเล็กชันอื่น ดังนั้นหากงานคุณขายไม่ออก ก็อย่าคิดว่าเพราะคุณยังขยันไม่พอ แต่เพราะมันยังมีเหตุผลอื่นๆ เกี่ยวข้องเสมอ 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising