จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในวงการท่องเที่ยวปี 2021

การแพร่ระบาดของโควิด-19 พลิกโฉมการใช้ชีวิตของคนทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พรมแดนระหว่างประเทศถูกปิด การท่องเที่ยวทางอากาศที่เคยบูมถึงขีดสุดต้องหยุดชะงัก ที่พักขนาดเล็กนอนสบายไป จนถึงโรงแรมหรูมากดาว ต่างได้รับผลกระทบจนหลายแห่งต้องปิดตัว ผู้คนแสวงหาหนทางการท่องเที่ยวรูปใหม่ที่ทำให้ตนเองสามารถใช้ชีวิตได้ ในขณะเดียวกันก็ปลอดภัยการจากติดเชื้อ

แน่นอนว่าในปี 2021 โลกของการท่องเที่ยวถูกพลิกกลับด้านอย่างชัดเจน กระแสการท่องเที่ยวแบบรักษ์โลกและเนิบช้ากลายเป็นเทรนด์หลัก จากที่เคยเป็นเทรนด์รองเมื่อปีที่แล้ว การขับรถเที่ยวกลายเป็นตัวเลือกแรกของนักเดินทาง เช่นเดียวกับการเดินทางทางอากาศที่ต้องปรับตัวขนานใหญ่ เพราะไม่อย่างนั้นก็ล้มระเนระนาดไป แม้ในปี 2021 เรายังไม่สามารถท่องเที่ยวได้อย่างใจอยากและยังคงระแวดระวังต่อเชื้อโรค หลายสิ่งหลายอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไป และนี่คือโฉมหน้าของวงการท่องเที่ยวปี 2021 ที่ THE STANDARD POP สรุปมาให้คุณ

การเที่ยวแบบเนิบช้ายังคงอยู่ และดูท่าว่าจะอยู่ไปอีกนาน

อิทธิพลของหนังสือ 1,000 Places to See Before You Die ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2003 และภาพยนตร์เรื่อง The Bucket List ที่ออกฉายในปี 2007 ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบินออกล่าสถานที่ในฝันที่พวกเขาอยากไปให้เยอะที่สุด จนพานให้จุดหมายปลายทางยอดฮิตเกิดปัญหานักท่องเที่ยวล้นเมือง (Overtourism) ขณะเดียวกันกระแสการท่องเที่ยวแบบเนิบช้าค่อยๆ งอกงามขึ้นมาเงียบๆ เพราะผู้คนต่างเบื่อกับการแก่งแย่งที่กินที่เที่ยว ทำให้การเยี่ยมชมไม่จรรโลงใจอีกต่อไป

หลังจากการระบาดของโควิด-19 กระแสการเที่ยวแบบเนิบช้ากลายเป็นเทรนด์เที่ยวกระแสหลัก และยิ่งบวกกับเทรนด์รักษ์โลกที่ เกรตา ธันเบิร์ก ปูทางเอาไว้ ยิ่งทำให้การเที่ยวลักษณะนี้มาแรง จากเครื่องบินสู่รถยนต์ จักรยาน และโรดทริป หลายคนแพ็กกระเป๋า เตรียมอุปกรณ์แคมปิ้ง ออกไปตั้งแคมป์ตามป่าเขา จักรยานภูเขามากมายถูกซื้อ ชวนแก๊งแล้วออกไปปั่น ตราบใดที่โควิด-19 ยังอยู่ และเรายังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ผู้เขียนเชื่อว่าการเที่ยวแบบเนิบช้ายังคงอยู่ และดูท่าว่าจะอยู่ไปอีก 2-3 ปี

เที่ยวได้ทุกที่ด้วยการท่องเที่ยวเสมือนจริง

ในปีที่แล้วการท่องเที่ยวเสมือนจริงกลายเป็นสิ่งยาใจสำหรับนักเดินทางในช่วงล็อกดาวน์ ปีนี้ทัวร์เสมือนจริงจะได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก จนกลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวกระแสหลัก ทุกหมุดหมายปลายทางต้องมี รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ล้วนจัดเตรียมอุปกรณ์ VR ไว้ให้ลูกค้า แน่นอนว่ารวมไปถึงบริษัททัวร์ ระบบขนส่งมวลชน และอื่นๆ ด้วย

ประสบการณ์การบินแบบใหม่ และไฟล์ทบินแนวไลฟ์สไตล์

หลังปล่อยเครื่องบินจอดทิ้งขว้างไว้นานหลายเดือนในช่วงล็อกดาวน์ หลายสายการบินคิดว่าสมควรนำเครื่องบินเหล่านั่นมาอะไรสักอย่างเพื่อทำกำไร ในปีนี้เราจะเห็นสายการบินต่างๆ ทั่วโลกหันมาจับธุรกิจแปลกๆ ซึ่งส่วนใหญ่เน้นไปเชิงไลฟ์สไตล์ เช่น ทัวร์บุญบิน 99 วัดของการบินไทย หรือ เที่ยวบินธีม Hello Kitty ของสายการบิน EVA Air ที่มาพร้อมกับอาหารฝีมือเชฟมิชลิน 3 ดาว Motokazu Nakamura เป็นอาทิ ซึ่งคุณจะเห็นมากขึ้นในปี 2021

ขณะเดียวกันเครื่องบินใหญ่อย่าง Boeing 747 และ Airbus A380 มีแนวโน้มว่าจะเกษียณอายุเร็วขึ้น และถูกแทนที่ด้วยเครื่องบินลำเล็กกว่า แต่งให้จุคนน้อย เน้นความสะดวกสะบาย และที่นั่งกว้างขวาง

การจองทุกอย่างล้วนยืดหยุ่น

อย่างที่ทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนออกมาใช้อย่างทั่วถึง นักท่องเที่ยวยังคงระแวดระวังและไม่ตัดสินใจจองอะไรระยะยาว แผนเดียวที่ผู้ประกอบการธุรกิจทุกคนล้วนทำได้และดียิ่ง คือการเสนอเงื่อนไขที่สามารถปรับเปลี่ยนการเดินทางได้ตลอดเวลา ผิดกับทศวรรษที่แล้วที่ทุกอย่างล้วนขยับลำบาก ใครดีใครดีใครได้ ดังนั้น ในปี 2021 ไม่ว่าคุณจองตั๋วเครื่องบิน ห้องพัก หรือแม้แต่กิจกรรมใดสักอย่าง ทุกอย่างต้องมาพร้อมเงื่อนไข ‘เปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเติม’ เพราะไม่อย่างนั้นก็อย่าหวังเลยว่านักเดินทางจะใช้บริการ เพราะใครก็ไม่อยากจองแล้วทริปล่ม ทั้งอดไปและเสียเงินฟรีถูกไหม?

ความสะอาดคือตัวเลือกแรกของนักท่องเที่ยว

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นักเดินทางรักสะอาดมากขึ้น จากที่เคยกินง่ายอยู่ง่ายก็กลายเป็นจู้จี้เรื่องความสะอาด หลีกเลี่ยงกลุ่มคนพลุกพล่าน งดการสัมผัส และล้างมือจนผิวเปื่อย ในปีนี้นักเดินทางทุกคนต่างมองหามาตรการการป้องกันและรักษาความสะอาดเป็นหลัก ไม่ว่ากิจกรรมใดหรือการพักผ่อนล้วนต้องมีมาตรการรองรับ ห้องพักต้องได้รับการฆ่าเชื้อก่อนเข้าพัก ร้านอาหารต้องมีเจลล้างมือและบังคับสวมหน้ากากตลอดรับบริการ แม้กระทั่ง Mouthpiece สำหรับดำน้ำก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทุกคน เพราะใครจะรู้เหล่าว่าเชื้อโรคจะอยู่ที่ไหน และเราจะติดเมื่อไรหากไม่ป้องกัน

วัคซีนและเอกสารทางการแพทย์กลายเป็นสิ่งสำคัญ

เว็บไซต์ค้นหาเที่ยวบิน Skyscanner รายงานว่ายอดจองเที่ยวบินไป-กลับชั้นประหยัดของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9% หลังจากมีข่าววัคซีนครั้งแรก จากกระแสข่าวต่างๆ ทั่วโลก คาดว่าในปี 2021 วงการท่องเที่ยวจะคึกคักมากขึ้น เนื่องจากหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีนให้แก่พลเมือง และมีแนวคิดที่จะเปิดพรมแดนระหว่างกันมากขึ้น ทว่าสิ่งสำคัญในการข้ามแดน นอกจากพาสปอร์ตที่แสดงตัวตนแล้ว ตอนนี้สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) กำลังพัฒนา IATA Travel Pass ดิจิตอลแพลตฟอร์มสำหรับนักเดินทางที่ต้องแสดงข้อมูลทางการแพทย์ก่อนเข้าพรมแดน

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง: