วันนี้ (18 พฤษภาคม) องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเปิดเผยรายงานที่น่าตกใจว่า มีโอกาสสูงถึง 66% ที่โลกของเราจะมีอุณหภูมิทะลุเพดาน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับยุคก่อนอุตสาหกรรมภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากโลกเตรียมเข้าสู่สภาพอากาศแบบเอลนีโญในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บวกกับมนุษย์ยังคงเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลกันอย่างไม่หยุดหย่อน
อีกทั้งยังมีโอกาสสูงถึง 98% ที่อีกอย่างน้อย 5 ปีข้างหน้า โลกจะเจอกับอากาศที่ร้อนเป็นประวัติการณ์… ทั้งที่ตอนนี้ก็ร้อนจนแทบจะอยู่ไม่ไหวกันแล้ว!
อย่างไรก็ตาม เรายังคงพอโชคดีกันอยู่บ้าง เพราะนักวิทยาศาสตร์บอกว่า อุณหภูมิที่สูงเหนือ 1.5 องศาเซลเซียสนี้จะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่สิ่งที่ต้องระวังนับต่อจากนี้คือ แนวโน้มที่สภาพอากาศจะมีอุณหภูมิสูงแตะระดับนี้จะเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ และถ้านานาประเทศยังไม่ยอมร่วมมือร่วมใจหันมาใช้พลังงานสะอาดกันอย่างจริงจังแล้วล่ะก็ เป้าหมายในการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียสอาจหลุดลอยไป และมนุษย์ก็เตรียมพบกับความน่ากลัวของมหันตภัยทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกรวนกันได้เลย
THE STANDARD สรุปข้อมูลมาให้ชมกันว่า เจ้าตัวเลข 1.5 องศาเซลเซียสที่ดูเหมือนแสนจะเล็กน้อยนี้ สามารถสร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงต่อโลกของเราได้อย่างไรบ้าง
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
อ้างอิง: