องค์กรด้านการวิเคราะห์และให้คำปรึกษาชื่อดังของสหรัฐอเมริกาอย่าง Gallup สำรวจ เก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 ของพลเมืองโลกใน 116 ประเทศและดินแดน เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาพบว่า 68% ของพลเมืองโลกช่วงวัยผู้ใหญ่ ต้องการเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 หากไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขณะที่ 32% หรือพลเมืองโลกราว 1.3 พันล้านราย มีแนวโน้มจะไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในประเทศแถบยุโรปตะวันออก
จากผลการวิจัย Wellcome Global Monitor ของ Gallup เมื่อปี 2018 สะท้อนให้เห็นว่า พลเมืองของบรรดาประเทศในยุโรปตะวันออกและประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตมีแนวโน้มที่มักจะไม่เชื่อในประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนอยู่แล้ว ก่อนที่โควิด-19 จะแพร่ระบาด
โดยประเทศในอาเซียนอย่างเมียนมาเป็นประเทศที่พลเมืองส่วนใหญ่เต็มใจและต้องการเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 มากที่สุดถึง 96% ตามมาด้วยเนปาลและนิการากัว 87% ขณะที่ในปี 2020 พลเมืองไทยมีความต้องการเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 สูงถึง 85% โดย 8% ไม่เต็มใจเข้ารับวัคซีน และอีก 6% ไม่แน่ใจ ซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่ในอาเซียนมีแนวโน้มเต็มใจและต้องการเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19
แคเมอรูนเป็นหนึ่งในประเทศที่พลเมืองส่วนใหญ่ราว 65% มีแนวโน้มจะไม่เข้ารับวัคซีน มีเพียง 33% เท่านั้นที่เต็มใจและต้องการเข้ารับการฉีดวัคซีน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แคเมอรูนมีพลเมืองเข้ารับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดสไม่ถึง 2% ของพลเมืองทั้งหมด
ขณะที่คาซัคสถานเป็นประเทศที่พลเมืองเต็มใจและต้องการเข้ารับวัคซีนต้านโควิด-19 น้อยที่สุดเพียง 25% เท่านั้นเมื่อปี 2020 โดยทางการคาซัคสถานอนุมัติการใช้งานวัคซีนต้านโควิด-19 เพียง 1 ตัวเท่านั้นขณะนี้ เป็นวัคซีน Sputnik V จากสถาบัน Gemalaya ของรัสเซีย ล่าสุดมีพลเมืองคาซัคสถานเข้ารับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส 6.9% หรือคิดเป็น 1.29 ล้านราย ขณะที่มีพลเมืองเข้ารับวัคซีนครบโดสแล้วราว 1.4% เท่านั้น
หมายเหตุ: ระดับความต้องการเข้ารับวัคซีนดังกล่าวในบางประเทศอาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน (พฤษภาคม 2021) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนและผลงานของรัฐบาล
ภาพประกอบ: เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล
อ้างอิง: