“When you get into a monetary crisis, you lose confidence in all paper currencies. The only money that you have confidence in is gold.” – Alan Greenspan
อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนที่ 13 กล่าวไว้ถึงความสำคัญของทองคำที่สามารถให้ความเชื่อมั่นกับผู้ถือครองได้แม้ในยามวิกฤต ซึ่งสิ่งนี้ก็ยังคงเป็นจริงมาจนถึงปัจจุบัน
ทองคำคือหลุมหลบภัยความเสี่ยงที่ยังได้รับความนิยมอย่างมากในสภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ยิ่งในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีสัดส่วนการถือครองทองคำถึง 75% โดยเฉพาะอินเดียและจีน ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วมีสัดส่วนอยู่ที่ 25%
สภาทองคำโลกเปิดตัวเลขสัดส่วนการใช้ทองคำตามจุดประสงค์ต่างๆ ในแต่ละปี (คิดจากค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2013-2022) โดยแบ่งได้สัดส่วนดังนี้
- 37% ถูกถือครองในรูปแบบของเครื่องประดับ
- 7% ถูกใช้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
- 38% ถูกถือครองเพื่อการลงทุน
- 18% ถูกถือครองโดยธนาคารกลาง
จะเห็นได้ว่าทองคำยังคงมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านวัฒนธรรมความสวยงาม และในฐานะสินทรัพย์ที่มั่นคงในระบบเศรษฐกิจทั่วโลก
ทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่ต้องรอความชัดเจนทิศทางดอกเบี้ยของ Fed
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ประเมินปัจจัยที่จะกระทบต่อทิศทางราคาทองคำว่า ถ้าในปีนี้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งสุดท้ายก่อนจะปรับตัวลดลงในประมาณเดือนมีนาคม 2024 น่าจะเป็นปัจจัยบวกกับราคาโดยเป้าอยู่ที่ 2,075 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แม้จะไม่สามารถบอกช่วงเวลาที่ชัดเจนได้ แต่การปรับตัวขึ้นนี้น่าจะเกิดในช่วง Fed ลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของราคาส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าการลดดอกเบี้ยจะรุนแรงมากน้อยเท่าไร หากลดทีละ 0.25% ก็คงไม่ได้ส่งผลกับราคามาก
สำหรับปัจจัยหนุนราคาทองคำ พวรรณ์มองว่าเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นจะช่วยขับเคลื่อนความต้องการทองคำในไทย อีกทั้งประชาชนก็มีความคุ้นเคยกับสินทรัพย์ประเภทนี้อยู่แล้ว และในปัจจุบันคนไทยหันมาซื้อทองคำผ่านระบบออนไลน์เพื่อลงทุนมากขึ้น ทำให้ตลาดทองคำในประเทศมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ในฝั่งของ ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง เผยข้อมูลความต้องการทองคำโดยเฉลี่ยต่อปีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่า ประเทศไทยครองอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และอันดับ 3 ในเอเชีย แต่ในช่วงปี 2565 เราตกลงมาเป็นที่ 3 ในอาเซียน และ 6 ในเอเชีย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวียดนามและอินโดนีเซียมียอดโตขึ้น บวกกับปัจจัยที่ผู้ประกอบการไทยเองได้นำธุรกิจบางส่วนออกไปทำอยู่นอกประเทศ
งานสัมมนา Thailand Gold Forum 2023
ทั้งนี้ ความต้องการทองคำในไทยยังไปได้ดี เนื่องจาก 1 ใน 3 ของคนไทยนึกถึงทองคำเป็นอันดับที่ 2 รองจากการฝากเงินออมทรัพย์เมื่อพูดถึงเรื่องการออมเงิน และ 43% ของคนไทยมีการลงทุนทองคำในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งประเทศไทยมีทองคำสำรองในคลังอยู่ 244.2 ตัน ซึ่งถือเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน และสุดท้ายคนไทยจำนวน 46% เป็นเจ้าของทองคำรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
สภาทองคำโลกชูทองคำ ‘ดิจิทัล’ เพิ่มความ ‘ซื้อง่าย-ขายคล่อง และความเชื่อมั่น’ ให้แก่นักลงทุน
ข้อมูลจากนักลงทุนทองคำกว่า 1,425 คน ที่ให้การสัมภาษณ์กับสภาทองคำโลกเผยให้เห็นว่า การผนวกเทคโนโลยีเข้าไปกับตลาดทองคำนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ลงทุนในเรื่องของความคล่องตัว เนื่องจากนักลงทุนสามารถสั่งซื้อ-ขายได้อย่างสะดวกสบายที่ไหนเวลาใดก็ได้ และอีกฟังก์ชันที่นักลงทุนชื่นชอบคือการฝากทองคำกับผู้รับฝากเพื่อรับดอกเบี้ย
Andrew Naylor หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะสภาทองคำโลก กล่าวว่าเทคโนโลยีคือตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ชนิดนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับหลายประเทศที่การเข้าถึงทองคำยังยากกว่าไทยมาก เช่น สหราชอาณาจักรหรือสหรัฐอเมริกา ที่มีร้านทองอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และระบบต่างๆ ก็ยังค่อนข้างมีอุปสรรคหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความคล่องตัว และความเชื่อมั่นของการซื้อ-ขายทองคำกับบุคคลที่สาม เป็นต้น
Andrew Naylor หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะสภาทองคำโลก
เพื่อตอบโจทย์ปัญหาส่วนนี้ จึงมีการผนวกเทคโนโลยีเพื่อให้การเข้าถึงและการแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของทองคำ หรือในวงการเรียกว่า ‘Allocated Gold’ เป็นไปได้ง่ายและชัดเจนยิ่งขึ้นด้วยระบบฐานข้อมูลดิจิทัลที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่ง Allocated Gold เป็นวิธีการแสดงถึงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มรูปแบบตามกฎหมายด้วยข้อมูลตัวเลขที่สลักบนทองคำแท่งหรือเหรียญนั้นๆ และมีการจัดเก็บในระบบที่ปลอดภัย หมายความว่าผู้บริโภคประเทศนั้นๆ สามารถเข้าถึงทองคำกับองค์กรที่ได้รับความเชื่อมั่นสูงได้อย่างสบายใจมากขึ้น
นอกจากนี้เทคโนโลยีที่ทำให้ทองคำเป็นดิจิทัลยังช่วยในเรื่องของการแปลงหรือแลกเปลี่ยนจากทองเป็นเงินสด หรือไปเป็นสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่รวดเร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม Allocated Gold ยังคงไม่สามารถป้องกันการโกงได้ หากบุคคลที่สามที่ผู้ใช้งานฝากทองคำเอาไว้มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมที่ผิดจรรยาบรรณ ข้อพิพาทดังกล่าวจะถูกตัดสินโดยกระบวนการทางกฎหมาย แต่การโกงรูปแบบนี้ก็เกิดขึ้นในอัตราที่ต่ำมากเช่นเดียวกัน
สำหรับในมุมมองที่ว่า การมาของทองคำดิจิทัลนี้จะทำให้ความต้องการทองคำแบบจับต้องได้ลดลงไปไหม? Andrew มองว่าไม่ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าเทคโนโลยีเป็นเหมือนตัวเสริมที่จะช่วยให้ตลาดทองคำแข็งแกร่งและเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นที่มีความคุ้นเคยกับโลกออนไลน์ ซึ่งเมื่อทองคำสามารถซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ความต้องการจึงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นด้วยระบบดิจิทัล
แต่ถ้าเป็นผู้เล่นรายใหญ่อย่างธนาคารกลาง พวกเขาส่วนมากยังยึดกับทองคำในรูปแบบวัตถุ เนื่องจากจุดประสงค์ที่ต่างจากนักลงทุนรายย่อยที่เน้นความคล่องตัวในการซื้อ-ขายเป็นหลัก ในขณะที่องค์กรใหญ่อย่างธนาคารกลางซื้อเพื่อเก็บระยะยาว ทองคำในรูปแบบดิจิทัลจึงเป็นตัวเลือกที่เพิ่มความสะดวกของกลุ่มเป้าหมายรายย่อยมากกว่า
เทคโนโลยีในตลาดทองคำไทยนำหน้าหลายประเทศ
ในฐานะหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจทองคำ ธนรัชต์มองว่าเทคโนโลยีในตลาดทองคำประเทศไทยค่อนข้างล้ำหน้ากว่าต่างประเทศ เช่น การทำโทเคนที่เป็นหน่วยย่อยโดยมีทองคำหนุนหลังเพื่อให้ลูกค้าเทรดได้สะดวก หรือการทยอยออมทองด้วยเงินจำนวนน้อย ก็เป็นลักษณะของบริการที่มีให้คนไทยใช้งานมาสักพักอยู่แล้วบนแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งยังสามารถเลือกแลกทองคำจริงออกมาตามต้องการได้ด้วย
“ลูกค้าของเราที่ซื้อขายทองกว่า 90% ส่งคำสั่งเป็นรูปแบบออนไลน์แล้ว ต้องบอกว่าในกรณีของประเทศไทยถือว่าเราทำได้ค่อนข้างสมบูรณ์ในแง่การซื้อ-ขายทองคำแบบดิจิทัล ส่วนหนึ่งเพราะธนาคารแห่งประเทศไทยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับสมาคมผู้ค้าทองคำ เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่อระบบชำระเงินต่างๆ ลื่นไหล จนทำให้ต่างชาติอยากเข้ามาขอคำปรึกษาให้ผู้ประกอบการไทยไปช่วยวางระบบให้” ธนรัชต์กล่าวถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของตลาดทองคำประเทศไทย
ส่วนความคืบหน้าของเทคโนโลยีกับตลาดทองคำไทยกับอนาคตอันใกล้ ก็จะมีเรื่อง เช่น การจำนำทองออนไลน์เพื่อรับเงินแบบเรียลไทม์เพื่อช่วยในเรื่องของความเร็ว และลดเวลาการเดินทางไปยังร้านรับจำนำด้วยตนเองได้ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย
อ้างอิง: